Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สเตเบิลคอยน์ 2.0 พลิกเกมการเงินดิจิทัล สร้างรายได้-เพิ่มสภาพคล่องผ่านโครงสร้างทวิโทเคน

สเตเบิลคอยน์ 2.0 พลิกเกมการเงินดิจิทัล สร้างรายได้-เพิ่มสภาพคล่องผ่านโครงสร้างทวิโทเคน / Tokenpost

สเตเบิลคอยน์กำลังเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใต้แนวคิดใหม่ที่เรียกว่า ‘สเตเบิลคอยน์ 2.0’ โดยแนวคิดใหม่นี้ไม่เพียงแต่นำดอลลาร์เข้าสู่ระบบออนเชน แต่ยังพยายามแปลงให้มันกลายเป็น *สินทรัพย์ทางการเงินที่สร้างมูลค่าและมีศักยภาพเชิงผลิตภาพ* หากในอดีตสเตเบิลคอยน์ทำหน้าที่เป็นเพียง ‘เชื้อเพลิง’ ในโลกดิจิทัล โมเดลใหม่นี้จะออกแบบมาเพื่อเป็น ‘เครื่องมือทางการเงินที่สร้างรายได้ พร้อมมีความสามารถในการแลกเปลี่ยน’

สเตเบิลคอยน์รุ่นแรกอย่าง เตเธอร์(USDT) และ USDคอยน์(USDC) ถูกออกแบบให้ใช้ระบบ ‘เงินสำรองเต็มจำนวน’ จึงมีจุดแข็งในด้านความน่าเชื่อถือและการถอนคืนสภาพคล่อง แต่รูปแบบนี้ทำให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นกลับตกเป็นสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวของบริษัทผู้ออกคอยน์ ผู้ถือครองทั่วไปจึงไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ ในแง่รายได้ แม้จะเคยเหมาะสมในยุคต้นของคริปโต แต่ปัจจุบันรูปแบบนี้เริ่มกลายเป็น ‘โมเดลล้าสมัย’

แนวโน้มใหม่ที่เริ่มชัดเจนคือ การแยกรายได้จากสเตเบิลคอยน์และเปลี่ยนเป็น ‘โทเคนผลตอบแทน’ แยกต่างหาก เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการลงทุน กล่าวคือ ตัว ‘สเตเบิลคอยน์หลัก’ ยังคงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางการชำระเงิน ในขณะที่ ‘ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ค้ำประกัน’ จะถูกแปลงเป็นโทเคนอีกประเภทหนึ่ง ทำให้ ‘รายได้’ เป็นสินทรัพย์ที่สามารถเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยนได้เหมือนเงินดิจิทัลทั่วไป

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่ได้เดินหน้าเข้าสู่ระยะปฏิบัติจริง ตัวอย่างคือฟันด์ BUIDL ของแบล็คร็อก ซึ่งเปิดตัวไม่ถึงหนึ่งปีก็มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 หมื่นล้านบาท) พร้อมออกแบบให้ทุกกระบวนการดำเนินบนออนเชนเต็มรูปแบบ ฟรังก์ลิน เทมเพิลตัน ก็ยกระดับกองทุน Money Market ด้วยการคำนวณดอกเบี้ยรายวันและจ่ายออกแบบรายเดือน ขณะที่โปรโตคอลดีไฟน์บางแห่งยังสามารถให้ผลตอบแทนที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอย่างคงที่และมีสภาพคล่อง สะท้อนถึงจุดเริ่มต้นของ ‘ระบบการเงินออนเชนอย่างแท้จริง’

ใน ‘สเตเบิลคอยน์ 2.0’ โครงสร้างแบบ ‘ทวิโทเคน’ คือหัวใจสำคัญ หนึ่งคือโทเคนที่ทำหน้าที่เป็นดอลลาร์ดิจิทัล อีกหนึ่งคือโทเคนที่แทนสิทธิ์ในดอกเบี้ย ด้วยโมเดลนี้ สเตเบิลคอยน์ที่เคยใช้เพียงทำธุรกรรมกลายเป็น ‘สินทรัพย์ผสม’ ที่มีทั้งสภาพคล่องและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน และแทนที่จะใช้เพียงเงินสดเป็นหลักประกัน โครงสร้างใหม่นี้ยังก้าวไปสู่สินทรัพย์ระดับสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล กองทุนตลาดเงิน พันธบัตรระดับสถาบัน และสินเชื่อที่ถูกโทเคนไนซ์ไว้

สำหรับผู้ออกเหรียญ โครงสร้างนี้ยังเปลี่ยนแปลงบทบาทจากการครอบครองรายได้ฝั่งเดียว มาเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถถือครองหรือรีอินเวสต์ผลตอบแทนได้ สมมติว่าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีปริมาณธุรกรรมหลายหมื่นล้านบาท แทนที่จะได้แค่กำไรเรื่องประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถ ‘ออกสเตเบิลคอยน์ของตัวเอง’ และใช้ในระบบนิเวศขององค์กร พร้อมเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่เกิดขึ้นได้โดยตรง

ในแง่กฎระเบียบ ทิศทางก็เริ่มเป็นบวก สหภาพยุโรปได้ออก Framework อย่างเป็นทางการผ่านกฎหมาย ‘MiCA’ ในขณะที่ฮ่องกง และสิงคโปร์ก็เริ่มเปิดประตูสำหรับการใช้สเตเบิลคอยน์ภาคธุรกิจ ส่วนในสหรัฐฯ ความพยายามออกกฎหมายในลักษณะ ‘สองพรรคเห็นพ้องต้องกัน’ ก็กำลังคืบหน้า พร้อมการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้บริษัทกองทุนรายใหญ่สามารถถือสำรองสเตเบิลคอยน์บนออนเชนได้โดยตรง เมื่อมีทั้ง ‘สินทรัพย์ค้ำประกันน่าเชื่อถือ’ และ ‘โครงสร้างรายได้โปร่งใส’ พร้อมแล้ว สเตเบิลคอยน์ก็กำลังขึ้นแท่นเป็น ‘หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบการเงินยุคใหม่’

การพัฒนาในครั้งนี้ยังส่งผลเชิงบวกทั้งต่อผู้บริโภค ภาครัฐ และระบบดีไฟน์โดยรวม สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป สเตเบิลคอยน์จะเปิดโอกาสให้ถือ ‘ดอลลาร์ดิจิทัลที่สร้างรายได้’ สำหรับภาคธุรกิจ สินทรัพย์ที่เคยไร้สภาพคล่องจะสามารถสร้างสภาพคล่องและรายได้ในเวลาเดียวกัน และสำหรับรัฐบาล ก็สามารถออก ‘สกุลเงินดิจิทัลที่ยังรักษาอำนาจอธิปไตย พร้อมกับให้ผลตอบแทนแก่ประชาชน’

กล่าวโดยสรุป การวิวัฒน์ของสเตเบิลคอยน์คือคำตอบของคำถามสำคัญที่ว่า ‘สินทรัพย์ดิจิทัลจะกลายเป็นเงินตราที่แท้จริงได้อย่างไร’ หากบทแรกคือ ‘การทำให้เป็นดิจิทัล’ บทที่สองคือ ‘การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ’ และตอนนี้ หนังสือเล่มนั้นได้เปิดบทใหม่อย่างจริงจัง แล้วทิศทางก็ชัดเจนแล้วด้วยเช่นกัน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1