ในปี 2024 ยอดบริจาคด้วยคริปโตทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนแนวโน้มเติบโตของตลาด
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วและความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การบริจาคด้วย ‘คริปโต’ ขยายตัวอย่างมาก โดยแพลตฟอร์มบริจาคคริปโต ‘เดอะกิฟวิงบล็อก(The Giving Block)’ รายงานว่า ในปี 2024 มียอดบริจาครวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการเติบโตที่น่าสนใจของวงการ
รายงานระบุว่าการเพิ่มขึ้นของยอดบริจาคได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มตลาดขาขึ้น, การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบัน และจำนวนองค์กรไม่แสวงหากำไรที่รองรับการรับบริจาคคริปโตที่มีมากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริจาคมีช่องทางที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
‘เดอะกิฟวิงบล็อก’ ให้ความเห็นว่า “ความชัดเจนด้านกฎระเบียบทำให้นักลงทุนสถาบันเข้ามามีบทบาทมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบนิเวศของคริปโต ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมให้การบริจาคด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลขยายตัวต่อไป”
จากข้อมูลในรายงาน พบว่า ‘มากกว่า 70%’ ขององค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ ปัจจุบันรองรับการรับบริจาคคริปโต โดยมีมูลค่าบริจาคสูงสุดในรัฐนิวยอร์ก (22%), ฟลอริดา (15%), แคลิฟอร์เนีย (13%), เพนซิลเวเนีย (11%) และวอชิงตัน ดี.ซี. (10%) ซึ่ง 5 รัฐดังกล่าวคิดเป็น ‘69%’ ของยอดบริจาคทั้งหมด ด้านภาคส่วนที่ได้รับเงินบริจาคมากที่สุด ได้แก่ การศึกษา (16%) และสาธารณสุข (14%) ตามลำดับ
อีกหนึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจคือการผสาน ‘เทคโนโลยี AI’ เข้ากับแพลตฟอร์มบริจาคคริปโต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการบริจาคให้เป็นอัตโนมัติและปลอดภัยยิ่งขึ้น ‘เดอะกิฟวิงบล็อก’ คาดการณ์ว่า “การผนึกกำลังระหว่างบล็อกเชนและ AI จะช่วยให้ระบบบริจาคมีการพัฒนาไปอีกขั้น”
ในแง่ของประเภทสินทรัพย์ พบว่าการบริจาคส่วนใหญ่กว่า ‘90%’ มาจากบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) และโซลานา(SOL) โดยแนวโน้มในตลาดกระทิงปี 2024 ส่งผลให้ผู้บริจาคเลือกใช้เหรียญที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ขณะที่ในช่วงตลาดไม่แน่นอน การบริจาคด้วย ‘สเตเบิลคอยน์’ จะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมแทน
สำหรับแนวโน้มในอนาคต ‘เดอะกิฟวิงบล็อก’ คาดว่าในปี 2025 ยอดบริจาคด้วยคริปโตอาจแตะ ‘2.5 พันล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท) และในปี 2035 ยอดนี้อาจขยายตัวสู่ ‘89 พันล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 1.29 ล้านล้านบาท) โดยเฉพาะ ‘มิมคอยน์’ ที่มีแนวโน้มเข้ามามีบทบาทในวงการบริจาคมากขึ้น
นอกจากนี้ รายงานยังชี้ว่าผู้บริจาคคริปโตหลักเป็นกลุ่ม ‘นักลงทุนอายุน้อย’ ในช่วงวัย 20-30 ปี ซึ่งถูกเรียกว่า ‘คริปโตเอนเจล’ หรือ ‘นักลงทุนมองโลกในแง่ดี’ คนกลุ่มนี้มองว่าการบริจาคด้วยคริปโตเป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์ทั้งด้าน ‘ลดภาษี’ และ ‘สร้างผลกระทบทางสังคม’ ไปพร้อมกัน
‘เดอะกิฟวิงบล็อก’ สรุปว่า “การบริจาคด้วยคริปโตให้ข้อได้เปรียบด้านภาษีเหนือกว่าการบริจาคเป็นเงินสด และยังสะดวกกว่าการบริจาคหุ้น ทั้งนี้ หากเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมและจังหวะที่ดี ผู้บริจาคจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ทรงอิทธิพลยิ่งขึ้น”
ความคิดเห็น 0