ในขณะที่ระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2025 กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ ‘ระบบอัตโนมัติ’ และ ‘ปัญญาประดิษฐ์ (AI)’ ความต้องการโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่อง ‘ความเป็นส่วนตัว’ และ ‘การควบคุมสินทรัพย์ของผู้ใช้’ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายงานจาก K1 รีเสิร์ช ระบุว่าโปรเจกต์ที่กำลังโดดเด่นท่ามกลางกระแสดังกล่าวคือ *Lit Protocol* ซึ่งผสานการดูแลคีย์ส่วนตัวแบบ *Self-Custody* เข้ากับการทำงานอัตโนมัติด้วย AI ได้อย่างลงตัว กำลังกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานระดับสูงของ Web3 ในอนาคต
Lit Protocol ชูความได้เปรียบทางเทคนิคผ่านสององค์ประกอบหลัก ได้แก่ ‘การจัดการคีย์แบบไร้ศูนย์กลาง’ และ ‘การลงนามธุรกรรมแบบอัตโนมัติ’ โดยระบบผสานเทคโนโลยีการคำนวณแบบหลายฝ่าย (MPC) และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เชื่อถือได้ (TEE) ทำให้การเก็บรักษาคีย์ถูกกระจายออก และทุกการลงนามจะเกิดขึ้นได้เฉพาะเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคีย์ของผู้ใช้ไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โหนดใดโหนดหนึ่ง จึงลดความเสี่ยงในการถูกขโมยสินทรัพย์ทั้งหมดเมื่อต้องเจอกับกรณีโจมตี
รายงานจาก K1 รีเสิร์ช ยังกล่าวถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นของ Lit Protocol อย่าง ‘Lit Actions’ ซึ่งเปิดให้ผู้พัฒนาเขียนโปรแกรมอัตโนมัติด้วยภาษา JavaScript ที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระจากเครือข่ายบล็อกเชนโดยตรง ระบบสามารถลงนามและส่งธุรกรรมแบบมีเงื่อนไขได้อัตโนมัติ ทั้งยังสามารถออกแบบ *Trigger* ที่ซับซ้อนตามข้อมูล API, สถานะออนเชน หรือข้อมูลแบบครอสเชน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้งานในแวดวงดีไฟน์(DeFi), DAO และระบบเอเจนต์อัจฉริยะ
นอกจากนั้นยังมีโครงสร้างคีย์แบบ ‘คีย์แบบตั้งค่าได้’ (PKP) และ ‘คีย์แบบห่อ(WK)’ ที่ช่วยยกระดับการควบคุมกระบวนการลงนามและถอดรหัสข้อมูลอย่างปลอดภัย PKP ช่วยให้การลงนามอัตโนมัติเกิดขึ้นได้ตาม ‘เงื่อนไขและเกณฑ์ที่ผู้ใช้ตั้งไว้’ ส่วน WK ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมคีย์ขั้นสูงที่สามารถจัดเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในรูปแบบเข้ารหัส และสามารถถอดรหัสชั่วคราวได้เฉพาะในสภาพแวดล้อม TEE เท่านั้น ความสามารถนี้ทำให้ Lit Protocol มีคุณสมบัติครบทั้งด้านอัตโนมัติ ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว
ณ เดือนกันยายน 2025 Lit Protocol ดูแลสินทรัพย์รวมกว่า *340 ล้านดอลลาร์* และสนับสนุนอยู่กว่า *1.66 ล้านวอลเล็ต* โดยทำงานร่วมกับโปรเจกต์บล็อกเชนหลากหลายโครงการในฐานะโซลูชันความปลอดภัยของ Web3 ที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบเอเจนต์อัจฉริยะ ‘Vincent’ ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย K1 รีเสิร์ชวิเคราะห์ว่า จากทิศทางดังกล่าว Lit Protocol มีศักยภาพสูงในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในยุค *Web3 ที่เน้นระบบอัตโนมัติและบัญชีแบบนามธรรม* (Account Abstraction)
ในด้านโทเคโนมิกส์ Lit ใช้โครงสร้างแบบเน้นระบบนิเวศ โดยโทเคน $LITKEY ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการดำเนินงานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสเตกกิ้งโนด, การมีส่วนร่วมในระบบกำกับดูแล หรือการชำระค่าธรรมเนียม ปัจจุบันประมาณ *41.4%* ของโทเคนทั้งหมดถูกจัดสรรไว้สำหรับสร้างแรงจูงใจในระบบนิเวศ สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี และตอบแทนโนด ซึ่งสะท้อนการออกแบบเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
Lit ยังได้รับคำชมว่ามีความยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยงรายได้โดยตรงกับการใช้งานโทเคน และผลักดันรายได้โดยอ้อมผ่านการขยายระบบนิเวศ เช่น การพัฒนา SDK ให้ใช้งานง่ายขึ้น, ระบบการจ่ายเงินอัตโนมัติ, การเชื่อมโยงระหว่างเชน และการเพิ่มฟีเจอร์รองรับลูกค้าองค์กร รวมถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริการภายนอก K1 รีเสิร์ชมองว่าโครงสร้างเช่นนี้มีแนวโน้มกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายที่เชื่อถือได้ในวงการ Web3
กล่าวโดยสรุป Lit Protocol เป็นหนึ่งในไม่กี่โปรเจกต์ที่สามารถตอบโจทย์ 3 มิติของโลกคริปโตยุคใหม่ ได้แก่ ‘อธิปไตยของผู้ใช้’, ‘ความสะดวกของระบบอัตโนมัติ’ และ ‘ความปลอดภัยของข้อมูล’ ได้อย่างสมดุล ด้วยแนวทางเชิงเทคโนโลยีที่มุ่งสู่การบูรณาการ AI และความเป็นส่วนตัว โปรเจกต์นี้จึงถูกจับตาว่าจะกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต ความคิดเห็น: Lit อาจไม่ใช่แค่โซลูชันความปลอดภัย แต่คือเครื่องมือกำหนดแนวทางใหม่ของโลก DeFi และ Web3 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า.
ความคิดเห็น 0