ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวอย่างผันผวน หลังจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่แน่นอน กลายเป็นปัจจัยกดดันหลัก ส่งผลให้อัลท์คอยน์กว่า 90% ที่จดทะเบียนบนไบแนนซ์(Binance) ร่วงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว 200 วัน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า การร่วงลงอย่างรุนแรงในครั้งนี้อาจเป็น ‘สัญญาณของการกลับตัวระยะสั้น’ และสร้างโอกาสเชิงกลยุทธ์ให้กับนักลงทุน
บริษัทวิเคราะห์คริปโต เครียร์โตควอนต์(CryptoQuant) เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ว่า *“ในช่วงที่ตลาดส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความกลัวแบบนี้ กลับอาจเป็นช่วงเวลาที่น่าซื้อที่สุด”* โดยเน้นถึงความสำคัญของกลยุทธ์ ‘ลงทุนสวนทาง’ พร้อมทั้งระบุว่า ในรอบก่อนหน้า เมื่ออัลท์คอยน์ส่วนใหญ่ร่วงต่ำกว่า *200DMA* ตลาดมักเกิดการดีดตัวอย่างรุนแรงในระยะสั้น
ข้อมูลจากไบแนนซ์ระบุว่า อัลท์คอยน์ที่อยู่ใต้แนวโน้มระยะยาวคิดเป็นถึง *90% ของเหรียญทั้งหมด* ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนอาจอยู่ในช่วงของ ‘การเทขายอย่างกว้างขวาง’ โดยมีปัจจัยกระตุ้นจากการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา บางโทเคนชั้นนำถึงกับร่วงลงหลักสิบเปอร์เซ็นต์ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แม้จะมีแรงรีบาวด์ช่วงสั้น แต่ภาพรวมยังสะท้อน ‘ความกลัวระดับสูง’ ในหมู่นักลงทุน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า นักเทรดไม่ควรยึดเพียงแค่ ‘ราคา’ เป็นปัจจัยตัดสินใจ แต่ควรพิจารณา ‘สภาพคล่องและกิจกรรมบนเชน’ ของแต่ละโครงการ เพื่อคัดกรองเหรียญที่แสดงความแข็งแกร่งท่ามกลางตลาดขาลง ซึ่ง *ความคิดเห็น* จากคริปโตควอนต์ยังกล่าวอีกว่า โครงการบางแห่งที่ยังคงรักษาฐานกิจกรรมอยู่ มีแนวโน้มจะโดดเด่นหากตลาดกลับเข้าสู่ภาวะบวก
โจวา เวดสัน(Joao Wedson) นักวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า อัลท์คอยน์บางตัวอาจเริ่มแสดงสัญญาณฟื้นตัวแม้ไม่มีอัลท์ซีซันเต็มรูปแบบ โดยกล่าวว่า *“แม้ต้องรอให้บิตคอยน์(BTC) แสดงทิศทางชัดเจนก่อน แต่อัลท์บางตัวอาจพบโอกาสในช่วงพักฐานนี้”*
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่ระมัดระวังจาก เท็ด พิโลวส์(Ted Pillows) นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่ง ซึ่งระบุว่า “มูลค่าตลาดอัลท์คอยน์ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดถึง 20% การพูดถึงอัลท์ซีซันจึงอาจเร็วเกินไป” เขาเตือนว่า “แทนที่จะรีบซื้อในทุกการร่วงลง ควรรอให้บิตคอยน์และอีเธอเรียม(ETH) ยืนยันแนวโน้มกลับตัวชัดเจนก่อน”
ในตอนนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็น ‘โอกาสทอง’ หรือ ‘จุดเริ่มต้นของรอบขาลงใหม่’ แต่อย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือ *ตลาดส่วนใหญ่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป* และ ‘โอกาสการรีบาวด์ระยะสั้น’ ได้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วในอดีต ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ กลยุทธ์การลงทุนแบบระมัดระวังแต่มีความยืดหยุ่นจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย
ความคิดเห็น 0