เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในสหรัฐฯ เผชิญภาวะ *ปรับตัวลดลงทั่วกระดาน* โดยมีเสียงวิพากษ์จากนักลงทุนรายย่อยบางส่วนที่ชี้ว่า สาเหตุหลักของแรงขายเกิดจากคำกล่าวของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* เกี่ยวกับนโยบายการค้ากับจีน อย่างไรก็ตาม บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล ‘เซนติเมนต์(Santiment)’ มองว่าการโยงเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ากับการร่วงของตลาดเป็นเพียงพฤติกรรมที่เรียกว่า ‘การหาเหตุผลทางอารมณ์’ มากกว่าการวิเคราะห์อย่างมีตรรกะ
คำพูดที่จุดประเด็นของทรัมป์คือการแสดงเจตจำนงว่าจะ *เก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 100%* ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่นักลงทุนบางกลุ่มบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในชุมชนคริปโต ขณะที่ราคาเหรียญหลายสกุลเริ่มปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วทันทีหลังถ้อยแถลงดังกล่าว เซนติเมนต์มองว่า นี่คือ *“ปฏิกิริยาแบบตื่นตระหนกตามธรรมชาติ”* ที่สะท้อนแนวโน้มที่นักลงทุนต้องการค้นหาเหตุผลที่จับต้องได้ในเวลาที่ตลาดตกอย่างรวดเร็ว
จากการวิเคราะห์ของเซนติเมนต์ เหรียญอัลท์คอยน์ชื่อดังอย่าง อีด้า(ADA), โพลิแกน(MATIC) และอวาแลนช์(AVAX) ร่วงลงพร้อมกันอย่างมีนัยสำคัญหลังทรัมป์ให้สัมภาษณ์ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโครงสร้างของตลาดที่ ‘เปราะบางทางเทคนิค’ ควบคู่กับ ‘ความไม่มั่นคงทางจิตวิทยา’ ของนักลงทุนมากกว่าจะเป็นผลโดยตรงจากข่าวการเมือง
แม้นโยบายการจัดเก็บภาษีจีนของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อ ‘ตลาดการเงินโลก’ และ ‘ระบบการค้า’ ในระยะยาว แต่การเหมารวมว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุเดียวของภาวะตกต่ำในราคาคริปโต ดูจะเป็นการสรุปที่รีบร้อน *ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ* ระบุว่าควรดูภาพรวมของตลาดให้ครบถ้วน โดยเฉพาะปัจจัยเทคนิคและพฤติกรรมเชิงจิตวิทยาของตลาด
ในช่วงท้ายของรายงาน เซนติเมนต์แนะนำให้นักลงทุนโดยเฉพาะรายย่อย *หลีกเลี่ยงการซื้อขายตามอารมณ์* และเน้นมุมมองระยะยาว เนื่องจากตลาดคริปโตยังคงมีความผันผวนและอ่อนไหวต่อข่าวสารภายนอกอย่างมาก
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ตลาดคริปโตมีแนวโน้ม *ตอบสนองต่อปัจจัยภายนอกอย่างรวดเร็ว* และนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากยังขาดแนวทางที่ชัดเจนในการประเมินข้อมูล ดังนั้น ‘การสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์’ และ ‘การเข้าใจบริบทของข่าวสาร’ คือทักษะสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะต้องเร่งพัฒนาในอนาคต
ความคิดเห็น 0