ตลาดคริปโตยังคงเผชิญแรงกดดันจากสถานการณ์สหรัฐฯ หลังรัฐบาลเข้าสู่ภาวะ *ชัตดาวน์* ส่งผลให้การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญล่าช้า ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนในการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และสะเทือนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง *คริปโตเคอร์เรนซี* อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ประกาศเตรียมเก็บ ‘ภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมสูงสุด 100%’ ก็ยิ่งซ้ำเติมตลาด ส่งผลให้ทั้งตลาดคริปโตและหุ้นร่วงแรงในช่วงสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันจันทร์ที่ผ่านมา สัญญาณฟื้นตัวเริ่มปรากฏ โดยราคาหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ฟื้นตัวในกรอบเดิมอีกครั้ง
ทรัมป์แถลงเมื่อไม่นานมานี้ว่า อาจประกาศใช้ภาษีขาเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม ‘สูงสุดถึง 100%’ จากเดิมที่ใช้อัตรา 30% โดยกำหนดมีผลบังคับใช้เร็วสุดในวันที่ 1 พฤศจิกายน หรืออาจเร็วกว่านั้น ***ความคิดเห็น: ท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ทำให้แรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงปะทุขึ้นทันที*** โดยในตลาดคริปโตที่ใช้อัตราทดหรือเลเวอเรจสูงในตลาดอนุพันธ์ มีการล้างพอร์ตขนาดใหญ่ทั่วทั้งกระดาน ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของคริปโตเคอร์เรนซีลดลงเหลือราว 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,587 ล้านล้านวอน) ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าตลาดเอเชียวันจันทร์ *บิตคอยน์(BTC)* ปรับตัวขึ้นกลับมาแตะระดับ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.61 ล้านบาท) อีกครั้ง ขณะที่ *อีเธอเรียม(ETH)* ขยับขึ้นใกล้ระดับ 4,200 ดอลลาร์ (ราว 584,000 บาท) ส่งสัญญาณกลับเข้าสู่ช่วงการเคลื่อนไหวในกรอบเดิม นักลงทุนบางส่วนเริ่มคลายความกังวล หลังตลาดจับตาสัญญาณบวกเรื่องความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจเริ่มผ่อนคลาย
นอกจากปัจจัยด้านการค้าระหว่างประเทศและภาวะทางการเงินแล้ว สัปดาห์นี้ยังมีปัจจัยภายนอกเพิ่มขึ้นมาอีกหลายประเด็น โดยในวันจันทร์มีรายงานประจำเดือนจาก OPEC ตามด้วยคำแถลงของ *เจอโรม พาวเวลล์* ประธานเฟดในวันอังคาร ขณะที่ในวันพุธและพฤหัสฯ จะมีการเปิดเผย
ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมจากเขตนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจสะท้อนความเสี่ยงการถดถอยทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่ เช่น แคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก และหากยืนยัน อาจเป็นแรงกดดันต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเตรียมรับมือกับการประกาศผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในดัชนี *S&P500* ซึ่งราว 10% จะเปิดเผยงบในสัปดาห์นี้ โดยรายใหญ่ที่น่าจับตามีทั้ง *เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป, เวลส์ฟาร์โก, โกลด์แมนแซคส์, แบล็คร็อก, แบงก์ออฟอเมริกา, มอร์แกนสแตนลีย์* และ *อเมริกันเอ็กซ์เพรส* ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อ *จิตวิทยาความเสี่ยงของตลาด*
ตลาดคริปโตยังเผชิญ ‘ความผันผวนสูง’ และมีความเสี่ยงจากการใช้ *เลเวอเรจ* อย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์ ‘ล้างพอร์ตแบบฉับพลัน’ ครั้งล่าสุดที่เกิดเมื่อสุดสัปดาห์ ถือเป็นหนึ่งในระดับที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ***ความคิดเห็น: นี่เป็นสัญญาณว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้อาจกลายเป็นสถานการณ์เกิดซ้ำได้บ่อยขึ้น หากไม่มีการปรับลดความเสี่ยงในระบบ***
แม้เผชิญ *สามแรงกดดันพร้อมกัน* ได้แก่ นโยบายที่ไม่แน่นอน, ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการล้างพอร์ตแบบใช้เลเวอเรจ แต่ตลาดยังพยายามหาจุดฟื้นตัว โดยสัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์สำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโต ที่ต้องจับตา *การแถลงของเฟด, ตัวเลขเศรษฐกิจ และผลประกอบการยักษ์ใหญ่* ซึ่งจะเป็นตัวชี้นำทิศทางตลาดในช่วงต่อจากนี้
ความคิดเห็น 0