บิตคอยน์(BTC) เผชิญกับสัญญาณ *ขาลง* ครั้งแรก หลังจากราคาร่วงลงมากกว่า 20,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.78 ล้านบาท) จากจุดสูงสุดก่อนหน้า โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สินทรัพย์ดิจิทัลตัวนี้ได้ปรับฐานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเคลื่อนไหวอยู่ใกล้แนวโน้มขาขึ้นระยะยาวและเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลัก ส่งผลให้เกิดภาวะไม่แน่นอนในทิศทางระยะสั้น
จากมุมมองทางเทคนิค บิตคอยน์หลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.98 ล้านบาท) และกำลังทดสอบแนวรับสำคัญที่สอดคล้องกับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและแนวรับล่างของช่องขาขึ้น ระดับราคานี้ถือเป็น *แนวรับหลัก* ตามประวัติการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ดัชนี RSI ซึ่งลดต่ำกว่า 40 สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่อ่อนแอ และหากสถานการณ์ยังไม่ฟื้นตัว ราคาบิตคอยน์อาจไหลลงไปใต้ระดับ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท) ได้อย่างง่ายดาย
ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง บิตคอยน์กำลังพยายามรักษาระดับแนวรับที่บริเวณ 105,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ช่วง 108,000–109,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.99–15.17 ล้านบาท) ได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพลิกเป็นแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่า RSI จะดีดตัวเล็กน้อย แต่ยังคงไม่สามารถกลับไปยืนเหนือระดับ 40 ได้ สะท้อนถึงความเสี่ยงของ *การปรับฐานเพิ่มเติม*
ด้านตลาดอนุพันธ์ก็ส่งสัญญาณที่ไม่สดใสเช่นกัน โดยออร์เดอร์ขนาดใหญ่จากนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ ได้หายไปจากตลาดฟิวเจอร์ส ขณะที่ยังมีเพียงคำสั่งซื้อลักษณะรายย่อยเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งมักจะปรากฏในช่วงที่แนวโน้มขาขึ้นถึงจุดอิ่มตัว ปราศจากเงินทุนจากนักลงทุนสถาบัน การที่ตลาดขับเคลื่อนโดยนักลงทุนรายย่อยเพียงอย่างเดียวอาจเป็น ‘สัญญาณเตือน’ ว่าการปรับฐานครั้งนี้ไม่ใช่แค่โอกาสซื้อราคาต่ำ แต่ *อาจนำไปสู่การย่อตัวลึกยิ่งขึ้น*
แม้ว่าบรรยากาศในตลาดระยะยาวยังคงมองในเชิงบวก แต่นักวิเคราะห์มองว่าในระยะสั้น ตลาดจะต้องเผชิญกับ *ภาวะปรับฐานและสะสมแรงใหม่* โดยบิตคอยน์จำเป็นต้องยืนเหนือระดับ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.29 ล้านบาท) และแสดงรูปแบบ ‘จุดต่ำยกสูง’ ได้อย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถทำได้ ทิศทางขาลงในขณะนี้อาจขยายตัวเป็นภาวะซบเซาทางเทคนิคในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0