ฝ่ายค้านเยอรมนีเสนอถอดบิตคอยน์(BTC) ออกจากกฎ MiCA ชี้ควรยกระดับเป็น 'สินทรัพย์ยุทธศาสตร์'

พรรคฝ่ายค้านอันดับหนึ่งของเยอรมนีเสนอให้ถอด ‘บิตคอยน์(BTC)’ ออกจากกรอบการกำกับดูแลคริปโตของสหภาพยุโรป พร้อมผลักดันให้ยอมรับในฐานะ ‘สินทรัพย์ยุทธศาสตร์’ โดยชี้ว่า ความไม่ชัดเจนทางกฎหมายอาจขัดขวางการลงทุนระยะยาวและกระทบต่ออธิปไตยทางดิจิทัลของประเทศ

เมื่อวันที่ 23 (เวลาท้องถิ่น) พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดในรัฐสภาเยอรมนี ได้เสนอร่างมติใหม่ต่อสภา Bundestag โดยแสดงจุดยืนว่าการที่สหภาพยุโรปจะบังคับใช้กฎหมายครอบคลุมตลาดสินทรัพย์คริปโต (MiCA) กับบิตคอยน์ในระดับประเทศ ถือเป็นการกำกับดูแลที่เกินควร

AfD ให้เหตุผลว่า บิตคอยน์นั้นแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ เนื่องจาก ‘เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์’ ที่มีสถานะเฉพาะตัว พร้อมระบุว่า หากใช้กฎหมาย MiCA กับบิตคอยน์โดยตรง อาจกระทบต่อศักยภาพด้านนวัตกรรม เสรีภาพทางการเงิน และอธิปไตยดิจิทัลของประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน สหภาพยุโรปกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการบังคับใช้ MiCA ในปี 2024

AfD ยังชี้ด้วยว่า กระแสการมอง ‘บิตคอยน์’ เป็น ‘สินทรัพย์ยุทธศาสตร์’ กำลังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในบริบทของเทคโนโลยีด้านพลังงานรวมถึงสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเงิน พรรควิจารณ์ว่ารัฐบาลเยอรมนียังขาด ‘วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์’ โดยไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์สำรอง เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและบางประเทศในละตินอเมริกา

ในด้านนโยบายภาษี พรรค AfD ให้ความเห็นว่า ระบบเก็บภาษีบิตคอยน์ในปัจจุบันของเยอรมนี ‘มีข้อดี’ อยู่บ้าง เช่น การได้รับยกเว้นภาษีเมื่อถือครองเกินหนึ่งปี แต่ยังมีจุดอ่อนในแง่ของ ‘ความไม่ชัดเจนของข้อกฎหมาย’ ซึ่งอาจส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว

*ความคิดเห็น*: ข้อเสนอล่าสุดจากฝ่ายค้านเยอรมนีนี้ ไม่ใช่เพียงเรียกร้องให้ผ่อนคลายกฎระเบียบ แต่ยังเสนอมุมมองใหม่ที่มอง *บิตคอยน์* ในระดับนโยบายการเงินและพลังงาน ซึ่งถือว่าน่าจับตามอง แม้โอกาสที่เยอรมนีจะนำบิตคอยน์มาเป็นสินทรัพย์สำรองของธนาคารกลางยังมีน้อย แต่การเปิดประเด็นในระดับนิติบัญญัติ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปรับกรอบการกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลในยุโรปในระยะยาว.