ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ไมโครสตราเทจี(MicroStrategy) ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น 'สตราเทจี(Strategy)' พร้อมรายงานผลขาดทุนสุทธิ 670.8 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 และดำเนินการซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่มอีก 218,887 BTC ถือเป็นการเข้าซื้อในไตรมาสเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) สตราเทจีเปิดเผยว่ารายได้ในไตรมาส 4 อยู่ที่ 120.7 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ต้นทุนดำเนินงานในช่วงเวลาเดียวกันพุ่งขึ้นถึง 1.1 หมื่นล้านวอน เพิ่มขึ้น 700% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งดำเนินโครงการ '21/21 แพลน' ที่กำหนดไว้เพื่อระดมทุน 42,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อนำไปซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม
จนถึงขณะนี้ สตราเทจีสามารถระดมทุนได้แล้ว 20,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย โดยแหล่งเงินทุนหลักมาจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพและหนี้สินอื่นๆ ฟง เล(Phong Le) ซีอีโอและประธานของบริษัท กล่าวว่า "เรากำลังดำเนินกลยุทธ์ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นของเรา"
ปัจจุบัน สตราเทจีถือครองบิตคอยน์ทั้งหมด 471,107 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 45,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีการถือครองบิตคอยน์มากที่สุดในโลก ตอกย้ำแนวทางของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับคริปโตเคอเรนซีในฐานะสินทรัพย์หลัก
นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดตัวชี้วัดด้านผลการดำเนินงานใหม่ โดย 'BTC Yield' หรืออัตราผลตอบแทนบิตคอยน์ ซึ่งคำนวณจากมูลค่าของบิตคอยน์ที่ถือครองเทียบกับจำนวนหุ้นปรับลด มีค่าอยู่ที่ 74.3% ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายลดลงเหลือ 15% ในปี 2025 พร้อมกับแนะนำตัวชี้วัดใหม่อย่าง 'BTC Gain' และ 'BTC $ Gain' เพื่อวัดความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนชื่อจากไมโครสตราเทจีเป็นสตราเทจีสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู้นำด้านการลงทุนในบิตคอยน์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มโลโก้บิตคอยน์(₿) ข้างชื่อของตนเองเพื่อเน้นย้ำเอกลักษณ์ แม้ว่าจะยังคงดำเนินธุรกิจซอฟต์แวร์องค์กรควบคู่ไปด้วย
ในด้านราคาหุ้น สตราเทจี(MSTR) ปิดตลาดปรับตัวลง 3.3% มาอยู่ที่ 336.70 ดอลลาร์ และลดลงอีก 0.72% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
ความคิดเห็น 0