ปี 2025: คริปโตเข้าสู่ระบบการเงินโลกเต็มตัว บิตคอยน์(BTC) ยืนเหนือ 100,000 ดอลลาร์

ปี 2025 ถูกจารึกไว้ว่าเป็นปีที่ *อุตสาหกรรมคริปโต* เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งอย่างเป็นทางการของระบบการเงินโลก โดยกระแสการลงทุนที่เคยขับเคลื่อนด้วยการตลาดเกินจริงและความคลั่งไคล้ ถูกแทนที่ด้วยโครงการที่มี ‘ประโยชน์ใช้สอย’ อย่างแท้จริงและมีศักยภาพในการถูกนำไปใช้โดย *สถาบันการเงินขนาดใหญ่*

ตัวอย่างชัดเจนคือ *บิตคอยน์(BTC)* ที่ได้รับอานิสงส์จากการมาถึงของ ‘ยุค ETF แบบสปอต’ เมื่อเงินทุนของนักลงทุนสถาบันเริ่มหลั่งไหลเข้าตลาดอย่างจริงจัง ราคาบิตคอยน์ยังทรงตัวได้ในช่วงปรับฐานของตลาด โดยสามารถยืนเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) ได้เป็นเวลาค่อนข้างนาน ความเคลื่อนไหวสำคัญเกิดขึ้นหลังจากที่ *สหรัฐอเมริกา* อนุมัติการซื้อขาย *ETF บิตคอยน์แบบสปอต* ตั้งแต่ต้นปี 2024 ซึ่งส่งสัญญาณการยอมรับจากภาครัฐมากยิ่งขึ้น

บิตคอยน์เริ่มต้นปี 2025 เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ราคา 93,425 ดอลลาร์ (ราว 9.34 แสนบาท) และขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องไปแตะจุดสูงสุดที่ 124,752 ดอลลาร์ (ราว 1.24 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แม้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ราคาจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 101,298 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.01 ล้านบาท) จากแรงกดดันของ *ตลาดหมี* แต่โดยรวมยังสามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญได้หลายครั้ง โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ช่วงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ราคาร่วงหลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์ก่อนจะฟื้นกลับและยืนระดับดังกล่าวได้จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

*อีเธอเรียม(ETH)* ก็เป็นอีกหนึ่งสกุลเงินทางเลือกที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าสนใจ แม้จะเริ่มต้นปีด้วยภาวะซบเซา แต่กระแสความสนใจจากสถาบันและข่าวการอนุมัติ *ETF แบบสปอตของอีเธอเรียม* ได้ฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ความคาดหวังต่อทั้ง *ระบบนิเวศของอีเธอเรียม* เติบโตขึ้นพร้อมกับราคา

นอกจากนี้ สกุลเงินเน้นความเป็นส่วนตัวอย่าง *ซีแคช(ZEC)* และ *โมเนโร(XMR)* ก็กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง สืบเนื่องจากการลดซัพพลายของเหรียญและความต้องการในเรื่องการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเริ่มกลายเป็นปัจจัยใหม่ที่กระตุ้นการลงทุน ขณะเดียวกันในช่วงที่มีกระแสกดดันจากหน่วยกำกับดูแลทั่วโลก กลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความเป็นนิรนามจึงหันมาให้ความสนใจกับเหรียญเหล่านี้มากขึ้น

กล่าวโดยสรุป ปี 2025 ถือเป็นปีที่ตลาดคริปโตเคลื่อนตัวสู่แนวคิด ‘มูลค่าที่แท้จริง’ โดยโปรเจกต์ที่สามารถตอบโจทย์ด้านอุปสงค์จากสถาบัน ปรับตัวต่อกฎระเบียบใหม่ ๆ และมีการนำไปใช้จริงได้ มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง และอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดโฉมหน้าตลาดคริปโตในระยะยาว