CTO ริปเปิลแจงชัด: โปรโตคอลเอ็กซ์อาร์พี(XRP) ไม่มีการเก็บภาษีหรือสะสมมูลค่า

เดวิด ชวาร์ตซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี(CTO) ของริปเปิล ออกมาแสดงจุดยืนต่อประเด็นข้อโต้แย้งเรื่อง ‘ภาษี’ และระบบคุณค่าภายในระบบบัญชีแยกประเภทของเอ็กซ์อาร์พี(XRPL) โดยกล่าวว่า โปรโตคอลของเอ็กซ์อาร์พีไม่ได้สะสมมูลค่าหรือสร้างผลประโยชน์กลับคืนแก่ผู้ถือเอ็กซ์อาร์พีอย่างที่บางฝ่ายกล่าวอ้าง และย้ำว่าในระบบของ XRPL ไม่มี ‘ภาษี’ ในความหมายตามระบบการเงินแบบดั้งเดิม

ความคิดเห็นของชวาร์ตซ์มีขึ้นหลัง แมทธิว ซีเกล หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทจัดการสินทรัพย์แวนเอ็ก(VanEck) ตั้งคำถามว่า “หากผู้ถือเอ็กซ์อาร์พีไม่ได้รับผลประโยชน์ใดจากระบบนิเวศ และโปรโตคอลก็ไม่ได้เก็บสะสมมูลค่า แล้วใครเป็นผู้เก็บภาษีอยู่เบื้องหลัง?” ซึ่งชวาร์ตซ์ก็ได้ตอบโต้กลับว่า “หากอุดมการณ์ของบล็อกเชนคือการไม่มีตัวกลางและทุกคนสามารถเป็นแบงก์ของตัวเองได้ แล้วทำไมเราถึงยังอ้างอิงแนวคิดแบบเดิมที่หวังผลประโยชน์เฉื่อยๆ และตั้งคำถามเรื่องการเก็บภาษีอยู่อีก?”

ตามที่ชวาร์ตซ์ชี้แจง ระบบของ XRPL มีสองกลไกเท่านั้นที่อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการเก็บภาษี ได้แก่ ‘ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม’ และ ‘เงินฝากขั้นต่ำ’ บนแพลตฟอร์ม แต่กลไกเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันสแปมและรักษาประสิทธิภาพเครือข่ายเท่านั้น และที่สำคัญคือ ค่าธรรมเนียมเหล่านั้นจะไม่ตกเป็นของใครเลยในระบบ นั่นเพราะ XRP ที่ถูกใช้ในรูปแบบค่าธรรมเนียมจะถูก ‘เผาทิ้ง’ อย่างถาวรจากระบบ ตัวเลขปัจจุบันระบุว่า มี XRP ถูกเผาไปแล้วกว่า 14,241,275 เหรียญ โดยค่าธรรมเนียมเฉลี่ยแต่ละครั้งอยู่ต่ำกว่า 0.003 ดอลลาร์ (ราว 4 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับปริมาณ XRP ทั้งหมดที่มีอยู่ 100 พันล้านเหรียญ

ชวาร์ตซ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “XRPL เป็นเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อสาธารณประโยชน์ แพลตฟอร์มนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ และการถือครอง XRP ก็เป็นเพียงการถือสินทรัพย์เท่านั้น ไม่ได้แปลว่าผู้ถือครองจะมีสิทธิรับกำไรจากโปรโตคอล”

คำชี้แจงครั้งนี้กลายเป็นจุดสนใจของตลาดอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ผู้เล่นในตลาดยังตั้งคำถามว่าเอ็กซ์อาร์พีนั้นสามารถทำหน้าที่ ‘เก็บรักษามูลค่า’ ได้ในระยะยาวหรือไม่ ขณะเดียวกันทางฝั่งของริปเปิลก็ยังเดินหน้าเน้นย้ำในจุดแข็งเรื่อง *ความเป็นระบบไร้ศูนย์กลาง* และ *การใช้งานจริงในระบบนิเวศ* เป็นหลัก