บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะ 94,000 ดอลลาร์ ล้างสถานะ Long กว่า 310 ล้านดอลลาร์ สะท้อนแรงเก็งกำไรเกินพอดี

ราคาของบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงแตะระดับประมาณ 94,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.28 ล้านบาท) ส่งผลให้ตลาดอนุพันธ์เผชิญแรงกดดันในการ ‘ล้างสถานะ’ อย่างรุนแรง โดยภายในเวลาเพียง 1 วัน มีการล้างสถานะฝั่งซื้อ (Long Position) คิดเป็นมูลค่าสูงถึงประมาณ 268 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,645 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงภาวะ ‘เอนเอียงข้างซื้อ’ อย่างรุนแรง ด้วยอัตราส่วนความไม่สมดุลในการล้างสถานะ (Liquidation Imbalance) พุ่งสูงถึง *512.73%*

สาเหตุสำคัญของแรงปรับฐานนี้ *คาดว่า* มาจากอารมณ์ในตลาดที่เย็นลงหลังความคาดหวังเกี่ยวกับการเปิดตัวกองทุน ETF สำหรับริปเปิล(XRP) เริ่มลดลง ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์ยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่าราคาจะพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.36 ล้านบาท) แต่ท่ามกลางคลื่นแรงขายที่ตามมา ราคาจึงร่วงลงกว่าจุดสูงสุดประมาณ 6,000 ดอลลาร์

จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอย่าง CoinGlass ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีมูลค่าการล้างสถานะบิตคอยน์ในตลาดอนุพันธ์รวมประมาณ 310 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,212 ล้านบาท) โดยในจำนวนนี้มากถึง 86% เป็นสถานะฝั่งซื้อ หรือ Long Position ซึ่ง *แสดงให้เห็นถึงการเดิมพันฝั่งขาขึ้นอย่างเกินพอดีของนักลงทุนจำนวนมาก*

การที่สถานะฝั่งซื้อถูกล้างในปริมาณที่สูงเช่นนี้ *สะท้อนถึงความมั่นใจที่เกินควรของนักลงทุน* ต่อความเชื่อว่าบิตคอยน์จะทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้หลายรายเลือกใช้เลเวอเรจในการเพิ่มสถานะ ทว่าการร่วงลงแบบฉับพลันของราคา กลับกลายเป็น ‘กับดักทางการเงิน’ ที่กระตุ้นให้เกิดการปิดสถานะแบบบังคับอย่างกว้างขวาง

ขณะนี้ บิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 94,000 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับทางเทคนิคอยู่ที่ระดับ 83,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.13 ล้านบาท) ซึ่งยังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการ *ปรับฐานลงลึกกว่านี้*

แม้จะมีแรงกดดันด้านราคาและความไม่แน่นอนในตลาด แต่ข้อมูลระบุว่า *นักลงทุนสถาบันยังคงเดินหน้าเข้าซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง* โดยกลุ่มที่ถือครองสินทรัพย์ในปริมาณมากอย่าง Strategy ก็ยังคงเพิ่มการถือครองอยู่ในช่วงเวลานี้ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า การสะสมของนักลงทุนรายใหญ่ *อาจกลายเป็นฐานรับสำคัญสำหรับการฟื้นตัวในระยะต่อไป*

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น การล้างสถานะในตลาดอนุพันธ์และภาวะความเชื่อมั่นอ่อนแอ *ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาบิตคอยน์อย่างมีนัยสำคัญ* ขณะที่ตลาดยังจับตาความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ในช่วงฟื้นฐานต่อไปอย่างใกล้ชิด