โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือชื่อดัง *พ่อรวยสอนลูก* ประกาศจุดยืนว่าจะไม่ขายบิตคอยน์(BTC) และทองคำ แม้ในช่วงตลาดคริปโตตกต่ำ โดยเขาชี้ว่าปัญหาขาดสภาพคล่องทั่วโลกคือ *ต้นตอที่แท้จริง* ของการล่มสลายของตลาด และเตือนว่าการพิมพ์เงินครั้งใหญ่หรือที่เขาเรียกว่า *Big Print* กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
เมื่อวันที่ 24 คิโยซากิแสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์เดิม) ว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่แตกอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบุว่า “ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะเงินสดขาดแคลน และสิ่งนี้คือสาเหตุหลักของการทรุดตัวของราคาในตลาด” พร้อมเสริมว่า “*Big Print* กำลังเริ่มขึ้นแล้ว” ซึ่งหมายถึงรัฐบาลต่าง ๆ กำลังเตรียมใช้มาตรการพิมพ์เงินครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับปัญหาหนี้สิน
คิโยซากิอ้างอิงความเห็นจาก ลอว์เรนซ์ เลปพาร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานทองคำของสหรัฐฯ ว่า *การพิมพ์เงินอย่างไร้ขีดจำกัดจะส่งผลบวกต่อทองคำ, เงิน, บิตคอยน์ และอีเธอเรียม(ETH)* โดยเน้นว่าการล่มสลายของ ‘เงินปลอม’ อย่างเงินตราทั่วไป จะเปิดทางให้สินทรัพย์ทางกายภาพและดิจิทัลได้รับการยอมรับในมูลค่าที่แท้จริง
แม้เขายอมรับว่าในภาวะขาดสภาพคล่อง ผู้ถือสินทรัพย์บางรายอาจจำเป็นต้องขายเพื่อตอบสนองความต้องการเงินสดระยะสั้น แต่ก็ย้ำชัดว่านั่นไม่ใช่เพราะขาดความเชื่อมั่นในตัวสินทรัพย์เหล่านี้
คิโยซากิยังเสริมในโพสต์ถัดไปว่า เมื่อแนวโน้มขาลงสิ้นสุดลง เขาตั้งใจจะซื้อบิตคอยน์เพิ่ม โดยชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดในการเสนอขายของบิตคอยน์ที่มีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งสนับสนุนแนวคิดเรื่องความ *หายากและคุณค่าในระยะยาว*
เขายังกล่าวถึงการจัดตั้ง 'Cashflow Club' ซึ่งเป็นชุมชนการเรียนรู้ โดยมีพื้นฐานมาจากบอร์ดเกมด้านความรู้ทางการเงินของเขา พร้อมให้ความเห็นว่า *การเรียนรู้ร่วมกันจะช่วยลดความผิดพลาดในการลงทุนได้*
ด้าน มิสเตอร์ คริปโต อินฟลูเอนเซอร์สายคริปโตชื่อดัง รายงานว่า ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ได้ร่วงลงระดับ 16 ซึ่งสะท้อนความรู้สึก ‘กลัวอย่างรุนแรง’ ในตลาด โดยตัวชี้วัดนี้มักถูกตีความว่าเป็น *โอกาสในการเข้าซื้อบิตคอยน์ในจังหวะราคาต่ำ*
คำแถลงของคิโยซากิครั้งนี้มีแนวโน้มจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้าง โดยเฉพาะในช่วงที่กองทุน ETF บิตคอยน์มีการไหลออกของเงินทุนจำนวนมาก แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณว่ามีผู้เล่นบางส่วนมองว่านี่คือ *โอกาสในการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว*
ความคิดเห็น 0