Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อันลิมิตเปิดตัวแพลตฟอร์มสเตเบิลคอยน์ไร้ค่าธรรมเนียม เชื่อมโลก DeFi กับการเงินดั้งเดิม

อันลิมิตเปิดตัวแพลตฟอร์มสเตเบิลคอยน์ไร้ค่าธรรมเนียม เชื่อมโลก DeFi กับการเงินดั้งเดิม / Tokenpost

อันลิมิต(Unlimit) บริษัทฟินเทคด้านบริการชำระเงิน ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มแบบ ‘ไม่คัสโตเดียล’ ที่สามารถแลกเปลี่ยนสเตเบิลคอยน์ได้อย่างสะดวก พร้อมถอนเงินไปยังทั่วโลกได้ทันที โดยบริษัทระบุว่า แพลตฟอร์มใหม่นี้ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ และผสมผสานโครงสร้างของตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์(DEX) เข้ากับเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกได้อย่างลงตัว

แพลตฟอร์มดังกล่าวถูกนำเสนอว่าเป็น ‘ศูนย์เคลียร์ริ่งแบบไม่คัสโตเดียลแห่งแรกสำหรับสเตเบิลคอยน์’ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับมากกว่า 150 สกุลเงินทั่วโลกเพื่อการถอนเงินได้ทันที ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญและแปลงเป็นเงินสดได้ในหนึ่งพอร์ทัลโดยไม่จำเป็นต้องบริหารกระเป๋าเงินดิจิทัลเอง จุดเด่นคือไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม และไม่ต้องเสียค่า ‘ก๊าซ’ หรือค่าธรรมเนียมเครือข่ายของอีเธอเรียม(ETH)

อันลิมิตก่อตั้งในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2009 และปัจจุบันให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินแก่ธุรกิจในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก โดยมองว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกดีไฟ(DeFi) และการเงินแบบดั้งเดิม คิริลล์ เอเวส(Kirill Eves) ซีอีโอกล่าวว่า “สเตเบิลคอยน์ได้กลายเป็นเหมือนส่วนขยายของดอลลาร์ดิจิทัล และแพลตฟอร์มของเราจะสะพานเชื่อมโลกของดีไฟเข้ากับการเงินกระแสหลัก”

แม้บริการจะเปิดตัวแล้ว แต่อันลิมิตยังไม่เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าแพลตฟอร์มนี้รองรับเหรียญใดบ้าง

ขณะเดียวกัน กระแสการรุกเข้าสู่ตลาดสเตเบิลคอยน์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านฟินเทคก็เพิ่มความร้อนแรงมากขึ้น ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สไตรป์ประกาศเปิดตัวบัญชีดิจิทัลที่รองรับ USDC และ USDB เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เสมือนบัญชีทั่วไปได้ ทั้งการเก็บรักษาและโอนไปยังผู้อื่น โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการเข้าซื้อกิจการของบริดจ์(Bridge) และขยายการให้บริการครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ

ต่อมาในเดือนตุลาคม รีโวลูท(Revolut) ได้เพิ่มฟีเจอร์แลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐกับสเตเบิลคอยน์ชั้นนำแบบ 1:1 ทันทีให้กับผู้ใช้งานกว่า 65 ล้านราย โดยสามารถทำธุรกรรมได้สูงสุดเดือนละ 578,000 ดอลลาร์ (ราว 8.5 ล้านบาท) โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ด้านแอปแคช(Cash App) ของบริษัทบล็อก(Block) ก็เตรียมเปิดให้ฝากถอนสเตเบิลคอยน์ในเร็วๆ นี้เช่นกัน

บริษัทการ์ดชำระเงินรายใหญ่อย่าง วีซ่า(Visa) และมาสเตอร์การ์ด(Mastercard) ก็เร่งขยับเข้าสู่ตลาดนี้ โดยวีซ่าประกาศในเดือนตุลาคมว่ากำลังพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับสเตเบิลคอยน์บน 4 บล็อกเชน ขณะที่มาสเตอร์การ์ดร่วมมือกับบริษัทฟินเทค ทูนส์(Thunes) ในเดือนพฤศจิกายน เปิดตัวเครือข่าย ‘มาสเตอร์การ์ดมูฟ(Move)’ สำหรับชำระเงินแบบเรียลไทม์เข้าสู่กระเป๋าสตางค์สเตเบิลคอยน์

จากข้อมูลของดีไฟลามา(DefiLlama) มูลค่ารวมของตลาดสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกอยู่ที่ราว 306.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 451 ล้านล้านบาท)

‘ความคิดเห็น’: แนวโน้มการบูรณาการของสเตเบิลคอยน์เข้ากับระบบการเงินดั้งเดิมกำลังเร่งตัว อันลิมิตเลือกใช้กลยุทธ์ ‘ไร้ค่าธรรมเนียม’ และ ‘ไม่มีค่าก๊าซ’ เป็นข้อได้เปรียบหลัก ในขณะที่ความง่ายในการใช้งานและการไม่ต้องดูแลกระเป๋าเงินเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้นอกวงการคริปโตเข้าสู่การใช้งานจริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1