จีนเดินหน้ากดดันตลาดคริปโตอีกครั้ง โดยมุ่งเป้าไปยังสเตเบิลคอยน์ที่ถือเป็นความเสี่ยงในการก่ออาชญากรรม ล่าสุดธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะเข้มงวดกับกฎระเบียบเพิ่มเติม พร้อมเตรียมดำเนินการกวาดล้างกิจกรรมคริปโตในประเทศอีกระลอก
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน(ธปท.จีน) แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับ 12 หน่วยงาน รวมถึงกรมตำรวจ โดยระบุว่า ‘การเก็งกำไรคริปโตในจีนกลับมาอีกครั้ง’ และชี้ว่าการฟื้นตัวนี้กำลังท้าทายความมั่นคงทางการเงินของประเทศอย่างชัดเจน ทางธนาคารฯ ย้ำชัดเจนว่า ‘คริปโตไม่ได้มีสถานะเทียบเท่าเงินตราที่ถูกกฎหมาย’ พร้อมเสริมว่าการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตถือเป็น ‘การกระทำทางการเงินที่ผิดกฎหมาย’
นับตั้งแต่ปี 2021 ที่จีนประกาศแบนการซื้อขายและขุดเหรียญคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ รัฐบาลจีนได้ควบคุมตลาดคริปโตอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด โดยให้เหตุผลว่าคริปโตเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงิน และเสี่ยงถูกใช้ฟอกเงินหรือสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมาย
ในแถลงการณ์ฉบับล่าสุด ธนาคารกลางจีนยังได้เจาะจงถึง ‘สเตเบิลคอยน์’ ว่าเป็นปัจจัยความเสี่ยงใหม่ โดยระบุว่าสเตเบิลคอยน์ยังไม่ผ่านกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย อีกทั้งมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน จัดหาเงินทุนอย่างผิดกฎหมาย ตลอดจนการโอนเงินข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย ทางธนาคารยังได้เตือนว่า ‘สเตเบิลคอยน์ แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของคริปโต แต่ไม่สามารถตอบโจทย์การตรวจสอบตัวตนลูกค้า (KYC) และกฎการป้องกันฟอกเงิน (AML) ได้ตามที่กฎหมายกำหนด’ ซึ่งถือเป็น ‘ความเสี่ยงเชิงอาชญากรรมที่ร้ายแรง’
การเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนสอดคล้องกับแนวโน้มของหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกที่เริ่มจัดทำมาตรฐานสากลร่วมกันต่อสเตเบิลคอยน์ โดยเฉพาะจีนที่กำลังผลักดันเงินหยวนดิจิทัล จึงมีความจำเป็นต้องจำกัดอิทธิพลของสกุลเงินคริปโตที่มาจากภาคเอกชน
*ความคิดเห็น*: การดำเนินการครั้งนี้ของจีนอาจส่งผลให้ความต้องการใช้งานสเตเบิลคอยน์ในประเทศถูกผลักดันไปสู่ตลาดเถื่อนหรือช่องทางนอกระบบมากขึ้น และอาจสร้างแรงกดดันต่อโครงการในจีนแผ่นดินใหญ่ รวมไปถึงบริการทางการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) ที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค
*คำสำคัญ*: ‘สเตเบิลคอยน์’, ‘ฟอกเงิน’, ‘กฎระเบียบคริปโต’, ‘ธนาคารกลางจีน’, ‘เงินหยวนดิจิทัล’
ความคิดเห็น 0