ราคาของริปเปิล(XRP) พุ่ง 12% ในวันเดียว คาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นจากปัจจัยเชิงบวก

ราคาของริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้น 8% ในวันที่ 1 มีนาคม สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าคดีระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) กับริปเปิลอาจถูกยุติ ด้วยปัจจัยหนุนดังกล่าว ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวจากแรงเทขายก่อนหน้านี้ ทำให้ XRP ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ราคาของ XRP ฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากระดับ 1.94 ดอลลาร์ สู่ 2.17 ดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 12% ภายในวันเดียว สถานการณ์นี้ช่วยกระตุ้นกระแสเชิงบวกในตลาดและสร้างความคาดหวังว่า XRP อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ

ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของ XRP มาจากแนวโน้มที่ SEC อาจลดความเข้มงวดในการดำเนินคดีต่อบริษัทคริปโต เมื่อไม่นานมานี้ SEC ได้ถอนฟ้องหลายโครงการ เช่น คอยน์เบส, คอนเซนซิส, ยูนิสวอป และเจมินี นักลงทุนจึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์เดียวกันอาจเกิดขึ้นกับ XRP ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้น หากคดีความนี้ถูกยุติหรือบรรลุข้อตกลงที่เป็นบวก อาจส่งผลต่อการยอมรับ XRP ในตลาดการเงินและสนับสนุนการปรับตัวของราคา

อีกประเด็นที่สำคัญคือ การเข้าซื้อ XRP ของ ‘วาฬคริปโต’ หรือกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ข้อมูลออนเชนระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ กระเป๋าเงินที่ถือ XRP ตั้งแต่ 1 ล้านถึง 100 ล้านเหรียญ ได้สะสมเพิ่มกว่า 440 ล้าน XRP คิดเป็นมูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.46 ล้านล้านวอน ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นของ XRP จากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่

ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค XRP กำลังแสดงรูปแบบ ‘V-shaped recovery’ หรือ การฟื้นตัวแบบรูปตัววี หากราคาสามารถทะลุระดับแนวต้านในช่วง 2.35-2.58 ดอลลาร์ อาจมีโอกาสเดินหน้าต่อไปถึง 2.74 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าหากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง ราคามีโอกาสสูงที่จะกลับไปทดสอบระดับสูงสุดของเดือนกุมภาพันธ์ที่ 2.84 ดอลลาร์

ขณะที่นักวิเคราะห์คริปโต ดาร์ก ดีเฟนเดอร์ ระบุว่า XRP ได้ผ่านพ้นช่วงพักฐานแล้ว และถึงแม้จะไม่มีปัจจัยจากคดี SEC เข้ามาหนุน ราคาก็ยังมีศักยภาพที่จะขึ้นไปแตะ 8 ดอลลาร์ เขาชี้ว่า XRP กำลังเคลื่อนไหวเหนือจุดแนวรับฟีโบนักชี และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังต่อความผันผวนของตลาด แม้ XRP จะมีแนวโน้มเชิงบวก แต่ก่อนที่สถานการณ์คดีระหว่าง SEC จะได้ข้อสรุป ตลาดอาจยังคงเผชิญกับแรงขายระยะสั้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการปรับฐานเป็นระยะ