บริษัทจดทะเบียนที่ถือครองบิตคอยน์(BTC)จำนวนมาก กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะต้องขายสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าสูงสุดถึง 15.2 ล้านล้านวอน หลังมีรายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์ แคพิทัล อินเตอร์เนชันนัล(MSCI) วางแผนถอดบริษัทบางแห่งออกจากดัชนีของตน
เมื่อวันที่ 17 ตามเวลาท้องถิ่น องค์กร BitcoinForCorporations ซึ่งสนับสนุนการถือครองบิตคอยน์โดยภาคธุรกิจ เปิดเผยว่า หาก MSCI เดินหน้าแผนดังกล่าว อาจมีการขายสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าระหว่าง 10,000 ล้านถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14.8 ล้านล้านถึง 22.1 ล้านล้านวอน) จากบริษัทที่ได้รับผลกระทบ โดยอ้างอิงจากรายชื่อบริษัท 39 แห่งที่มีมูลค่าตามราคาตลาดปรับตามจำนวนหุ้นที่หมุนเวียน (float-adjusted market cap) รวมประมาณ 113,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 167 ล้านล้านวอน)
หนึ่งในบริษัทที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือ สเตรทีจี (Strategy) ซึ่งมีไมเคิล เซย์เลอร์เป็นผู้บริหาร ตามรายงานของเจพีมอร์แกน การที่ Strategy อาจถูกถอดจากดัชนี MSCI อาจนำไปสู่การไหลออกของเงินทุนได้มากถึง 2,800 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.1 ล้านล้านวอน) โดย Strategy คิดเป็น 74.5% ของมูลค่าตลาดรวมของบริษัทที่ได้รับผลกระทบในกรณีนี้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจนำไปสู่เงินทุนไหลออกสูงสุดถึง 11,600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17.1 ล้านล้านวอน) ส่งผลเพิ่มแรงกดดันในการขายเพิ่มเติมต่อ ‘ตลาดคริปโต’ ที่อยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่องมานานกว่า 3 เดือน *ความคิดเห็น: ความเคลื่อนไหวนี้อาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น และกดดันราคาในตลาด*
ปัจจุบัน มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญคัดค้านของ BitcoinForCorporations แล้วกว่า 1,268 ราย โดยทางองค์กรมองว่า MSCI กำลังใช้เกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม ด้วยการเสนอข้อกำหนดใหม่ที่ระบุว่า หากสัดส่วนธุรกรรมบนบล็อกเชนคิดเป็นมากกว่า 50% ของปริมาณซื้อขายรายวันของบริษัท จะส่งผลให้บริษัทนั้นไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี MSCI ได้
*ความคิดเห็น: การตัดสินใจของ MSCI อาจกระทบต่อกองทุน ETF และกองทุนรวมที่อิงดัชนี ซึ่งอาจต้องปรับพอร์ตโฟลิโอ ส่งผลให้เกิดความผันผวนด้านสภาพคล่องในระยะสั้น โดยเฉพาะกับบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์จำนวนมากอย่าง Strategy*
ความคิดเห็น 0