Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คริปโตอาจกลับมาเป็น 'ดาวเด่น' ปี 2026 หลังดอกเบี้ยต่ำ-เงินลงทุน AI หนุนตลาด

ปี 2026 กำลังถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็น ‘ปีทอง’ของการลงทุน โดยมีความหวังจากการสิ้นสุดนโยบายตึงตัวเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด), กลยุทธ์การเงินและดอกเบี้ยต่ำของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงกระแสเงินลงทุนในด้านปัญญาประดิษฐ์(AI) ที่พุ่งสูงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ *ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* ซึ่งเงียบเหงาในปีที่ผ่านมา กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง

ตลอดปี 2025 สินทรัพย์แทบทุกประเภทต่างทำสถิติพุ่งแรง ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นประมาณ 18%, แนสแด็กพุ่งขึ้น 22% และดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 15% แม้แต่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและเงินก็ทำสถิติใหม่ โดยทองคำพุ่งขึ้น 75% และเงินทะยานถึง 172% ทั้งหมดนี้ผลักดันมูลค่ารวมของกลุ่มสินทรัพย์ให้อยู่ที่กว่า 6,502 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์)

กลับกัน *บิตคอยน์(BTC)* และเหรียญทางเลือกหลักๆ แม้จะทำจุดสูงสุดระหว่างปี 2025 แต่เมื่อสุดท้ายแล้วสิ้นปียังคงติดลบในด้านผลตอบแทน จึงทำให้ *ตลาดคริปโต* โดยรวมถูกมองว่ามี ‘ผลงานต่ำ’ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ

ช่องวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ‘โคเบย์ซีเลตเตอร์’ (Kobeissi Letter) เชื่อว่าปี 2026 จะมีโอกาสเกิด *แรงกระตุ้นใหม่* ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ผ่านมา โดยวาง 5 ปัจจัยสนับสนุนสำคัญไว้

หนึ่งคือ การแข่งขันด้าน *AI* ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่นำไปสู่การลงทุนขนานใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน ว่ากันว่าเม็ดเงินลงทุนใน CapEx ด้าน AI แตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งสร้างผลกระทบทั่วทั้งอุตสาหกรรม

สองคือ แนวโน้ม *ลดกฎระเบียบ* โดยโคเบย์ซีเลตเตอร์มองว่า "กระแส Deregulation กำลังเป็นแนวหลัก" ซึ่งจะช่วยให้ภาคเอกชนเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นและเริ่มโครงการใหม่ได้มากขึ้น

สามคือ *การเลือกตั้งกลางเทอม* ของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 ซึ่งตามธรรมเนียมอาจตามมาด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อคะแนนนิยม

สี่คือ *การกลับเข้ามาของนักลงทุนรายย่อย* โดยมีแนวโน้มว่ากลุ่มผู้ลงทุนจะหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นหรือคริปโตอีกครั้ง

ห้า คือ *นโยบายการเงินของเฟด* ที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปี 2025 พร้อมกับประกาศยุติโครงการ ‘ลดงบดุล (QT)’ แนวโน้มจากประธานเฟดคนใหม่บ่งชี้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนสภาวะการเงินแบบผ่อนคลาย

ด้าน *ประธานาธิบดีทรัมป์* ก็แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสัญญาว่าจะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยที่ *ต่ำกว่า 1%* และเตรียมใช้รายได้จากภาษีนำเข้าสินค้าจีน มาแจกจ่ายเป็น *“เช็กกระตุ้นเศรษฐกิจ”* ให้ชาวอเมริกันโดยตรง

หากแผนนโยบายเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ค่าเงินกู้จะลดลง ส่งผลให้กำลังการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่ง และเม็ดเงินลงทุนก็มีแนวโน้มไหลกลับมาที่ *สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต* มากกว่าทองคำหรือหุ้น ซึ่งราคาค่อนข้างตึงตัวแล้ว

ด้วยภาพรวมนี้ หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า *ปี 2026 จะเป็นจังหวะที่คริปโตกลับสู่เวทีใหญ่หรือไม่*

โคเบย์ซีเลตเตอร์ชี้ว่า หากเงื่อนไขทั้งหมดหลอมรวมกัน –ตลาดทุนร้อนแรง, โลหะมีค่าฟองสบู่, และการหมุนเวียนของทุนลงทุน– ก็อาจเกิด “การเปลี่ยนขั้วของเงินทุน” จากหุ้นและทองคำมายังคริปโต

โดยเฉพาะ *บิตคอยน์(BTC)* ที่ในยุคทรัมป์ มีทิศทางได้รับการยอมรับในระดับสถาบันมากขึ้น สะท้อนจากโอกาสในการอนุมัติ *ETF แบบ Spot*, การเข้าพอร์ตของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ฯลฯ

แม้ตลาดคริปโตจะยังเผชิญความผันผวนในปี 2026 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบาย, เหตุการณ์การเมือง หรือแม้แต่ภัยไซเบอร์ แต่หากองคาพยพ 5 ประการคือ *ดอกเบี้ยต่ำ*, *AI*, *ลดกฎระเบียบ*, *กำลังซื้อของประชาชน*, และ *ความเชื่อมั่นในระบบการเงินใหม่* ผนึกพลังได้อย่างลงตัว โอกาสพลิกกลับของคริปโตก็จะเพิ่มขึ้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากในปี 2025 คริปโต ‘พักเหนื่อย’ จากกระแสนักลงทุนหลัก ปี 2026 ก็อาจเป็นฤดูกาลที่สกุลเงินดิจิทัลกลับมาเป็น *ดาวเด่นของตลาด* อีกครั้ง 💡

*ความคิดเห็น:* ด้วยกระแสเงินลงทุนที่เริ่มหมุนรอบและความคาดหวังด้านนโยบายการเงิน คริปโตอาจกลายเป็นสินทรัพย์ที่ ‘คืนชีพก่อนใคร’ ในรอบการลงทุนถัดไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1