ความสนใจเกี่ยวกับคำค้น ‘คริปโต’ บนกูเกิลลดลงสู่ระดับต่ำสุดในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการหันหลังของนักลงทุนรายย่อยอย่างชัดเจน ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความผิดหวังจากเหรียญแนวมุขหรือที่รู้จักกันว่า *‘มิมคอยน์’*
ตามรายงานของ Google Trends ความนิยมต่อคำว่า ‘คริปโต’ ทั่วโลกลดลงเหลือเพียง 26 คะแนน ซึ่งถือว่าใกล้เคียงระดับต่ำสุดในรอบปี และในสหรัฐฯ เองก็ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของปีด้วยเช่นกัน Google Trends ใช้คะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 100 เพื่อวัดความนิยมของคำค้น โดยยิ่งคะแนนต่ำยิ่งสะท้อนว่าความสนใจจากสาธารณชนลดลง
โดยเฉพาะในสหรัฐฯ การค้นหาคำว่า ‘คริปโต’ ลดลงไปอยู่ที่ 26 คะแนน ต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ซึ่ง *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ตลาดร่วง ความไม่มั่นคงจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ และการร่วงลงอย่างรุนแรงของมูลค่า *มิมคอยน์*
มาริโอ เนาโฟล ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต ระบุว่า ขณะนี้ “นักลงทุนรายย่อยแทบไม่มีความสนใจหลงเหลืออยู่เลย” และเสริมว่า แม้แต่นักลงทุนทั่วไปที่เคยถามไถ่เกี่ยวกับคริปโต ปัจจุบันก็แทบจะเงียบหายไปทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงระดับความน่าเชื่อถือของตลาดที่ถูกบั่นทอนลงอย่างหนัก
เขาชี้ว่าการล้มละลายของมิมคอยน์หลายโครงการที่เชื่อมโยงกับประธานาธิบดีทรัมป์และครอบครัว มีส่วนสำคัญต่อวิกฤตศรัทธาครั้งนี้ เหรียญเหล่านี้ร่วงลงมากกว่า 90% จากจุดสูงสุด ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และผลักดันให้จิตวิทยาการลงทุนแปรเปลี่ยนไปในทางลบอย่างเห็นได้ชัด
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อเกิด *‘แฟลชแครช’* หรือการร่วงลงอย่างรวดเร็วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ล้างพอร์ตเลเวอเรจกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 28.9 หมื่นล้านบาท) ภายในเวลาเพียงวันเดียว โดยในช่วงเฉพาะนั้น *บิตคอยน์(BTC)* ร่วงจากจุดสูงสุดที่ 125,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) ลงมาเหลือ 80,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.15 ล้านบาท) ขณะนี้ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 80,000-90,000 ดอลลาร์ ทำให้ไม่มีปัจจัยดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ได้มากนัก
บรรยากาศที่แห้งแล้งยากฟื้นตัวนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนถอยห่างจากตลาดคริปโตมากขึ้น เพราะแม้จะผ่านจุดตกต่ำมาแล้ว แต่ตลาดก็ยังไม่สามารถกลับมาสร้างความร้อนแรงได้เหมือนเดิม โดยที่แรงขายจากผู้ถือระยะยาวยังคงเป็นตัวฉุดรั้งอยู่
ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของตลาดอย่าง *‘ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโต’* ยังคงตอกย้ำภาพรวมที่อ่อนแอ โดยในเดือนพฤศจิกายน ตัวดัชนีย่อลงไปถึงระดับ 10 ซึ่งแสดงถึง ‘ความกลัวอย่างสุดขั้ว’ และแม้ล่าสุดจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 28 แต่ก็ยังคงอยู่ในเขต ‘ความกลัว’
แม้จะมีการวิเคราะห์ในเชิง *ความคิดเห็น* ว่า บิตคอยน์อาจแตะ 250,000 ดอลลาร์ (ราว 3.6 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี แต่สถานการณ์จริงกลับสวนทาง เพราะในรอบ 30 วันที่ผ่านมา ราคาได้ถอยลงมาอีกราว 3% ตอกย้ำแนวโน้มขาลงที่ยังไม่สิ้นสุด
บรรยากาศในโลกคริปโตเวลานี้ ยังคงถูกบดบังด้วยความขาดความเชื่อมั่น กำลังซื้อจากรายย่อยที่หายไป และแรงกดดันจากภายนอก ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง สะท้อนว่าแม้ตลาดอาจดูเงียบสงบ แต่แรงสั่นไหวยังคงอยู่เต็มไปหมด
ความคิดเห็น 0