คริปโตร่วง-เงินพุ่ง 134% ในยุคทรัมป์ นักลงทุนหันซบโลหะมีค่าแทนตลาดดิจิทัล

หลังทรัมป์เข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มกราคม ตลาดต่างเต็มไปด้วยความคาดหวังในเรื่องนโยบายลดภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตและคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุน หากใครนำเงิน 10,000 ดอลลาร์ไปลงทุนในวันสาบานตน ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด นั่นเพราะ ‘เมกะเทรนด์ตัวจริง’ กลับกลายเป็น *การลงทุนในโลหะมีค่า* โดยเฉพาะ ‘เงิน’ ที่ให้ผลตอบแทนมากถึง 134% ภายในเวลาไม่ถึงปี

แม้ตลาดจะตื่นเต้นกับท่าทีเป็นมิตรของทรัมป์ต่อคริปโตเคอร์เรนซี และการเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ทรัพย์สินดิจิทัล แต่ภาพรวมการเคลื่อนย้ายเงินทุนกลับสะท้อนความกังวลมากกว่าความหวัง ท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งรวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และนโยบายการค้าของทรัมป์ เงินทุนจำนวนมากจึงมุ่งหน้าเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองและเงินแทน

จากตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2025 เงินทะยานขึ้นถึง 23,400 ดอลลาร์ จากเงินลงทุนเริ่มต้น 1 หมื่นดอลลาร์ ขณะที่ทองคำขยับขึ้นราว 60% การเพิ่มขึ้นของราคามิใช่เรื่องชั่วคราว แต่เป็นส่วนหนึ่งของ *ซูเปอร์ไซเคิล* ที่ได้รับแรงหนุนจากทั้งความต้องการใช้จริงในอุตสาหกรรม และการเก็งกำไรในยุคที่เงินเฟ้อยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง

เงินถือเป็นหนึ่งในโลหะที่โดดเด่น โดยนอกจากจะใช้ในเครื่องประดับ ยังถูกนำไปใช้ใน *อุตสาหกรรมดิจิทัล, รถยนต์ไฟฟ้า และแผงโซลาร์เซลล์* ด้วย ทว่าอุปทานกลับมีข้อจำกัดตามที่ BBC รายงาน เพราะกว่า 70% ของการผลิตเงินเป็นผลพลอยได้จากการขุดแร่ประเภทอื่น ทำให้การตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทำได้ยาก

ในฝั่งของคริปโต แม้มาตรการสนับสนุนมีความคืบหน้า เช่น สำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ และ CFTC ที่เริ่มวางกรอบกฎหมาย รวมไปถึงการตั้ง 'กองทุนสำรองอัจฉริยะ’ สำหรับบิตคอยน์(BTC) ผลตอบแทนกลับสวนทาง โดยบิตคอยน์ปรับตัวลดลง 18%, อีเธอเรียม(ETH) -10%, โซลานา(SOL) -52% และโดจคอยน์(DOGE) ร่วงลงถึง -68%

ท่ามกลางสภาพตลาดเช่นนี้ นักลงทุนบนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) อย่าง ‘Crypto Rover’ แสดงความคิดเห็นว่า “บิตคอยน์ที่ระดับ 90,000 ดอลลาร์ แต่ความรู้สึกเหมือนถือเหรียญที่ราคาแค่ 10,000 ดอลลาร์” ซึ่งสะท้อนถึง *ภาวะขาดความมั่นใจ* โดยรวมในตลาดการลงทุนคริปโตช่วงปลายปีนี้

สรุปแล้ว ‘ดีลมหัศจรรย์’ ในยุคทรัมป์ของปี 2025 ไม่ได้เป็นของเทคโนโลยีหรือตลาดคริปโต แต่เป็น *โลหะมีค่า* โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการใช้ทางอุตสาหกรรมสูงอย่างเงิน, แพลทินัม และพาลาเดียม ที่ตอบสนองต่อทั้ง *ความไม่แน่นอนทางการเมืองและดีมานด์จากโลกดิจิทัล* ได้ตรงจุดที่สุด นักลงทุนที่เลือกลงทุนอย่างสมดุลในโลหะเหล่านี้อาจเห็นผลตอบแทนที่สูงกว่าทรัพย์สินอื่นถึงกว่า 100% ภายในเวลาเพียง 1 ปี

‘ทรัมป์เทรด’ เวอร์ชันปี 2025 จึงมิใช่การเก็งกำไรในคริปโตหรือหุ้นเทคโนโลยี แต่คือ *การหันกลับเข้าสู่ฐานะการลงทุนในสินทรัพย์ที่จับต้องได้* ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ไว้ใจในนโยบายที่แม้จะดูเป็นบวก แต่อัดฉีดไม่ถึงเป้าของนักลงทุนที่หวังผลระยะสั้นอย่างแท้จริง