ริปเปิล(XRP) อาจได้ข้อยุติคดีกับ SEC ท่ามกลางกระแสการลดค่าปรับ

การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่าง ริปเปิล(XRP) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า SEC อาจพิจารณาลดค่าปรับหรือถอนฟ้องในอนาคต

เมื่อวันที่ 9 ตามรายงานของ CryptoPotato เฟร็ด ริสโปลี นักกฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลกล่าวว่า SEC อาจเลือกถอนอุทธรณ์ในขณะที่ยังคงค่าปรับที่ 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,575 ล้านบาท) เขาระบุว่าทีมผู้บริหารของ SEC ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่เป็นมิตรกับตลาดคริปโต ซึ่งอาจช่วยให้ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นได้

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ผู้พิพากษา อนาลิซา ตอร์เรส ตัดสินว่าริปเปิลละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์บางส่วน พร้อมสั่งให้ชำระค่าปรับ เดิมทีริปเปิลมีท่าทีต้องการยุติคดีนี้ แต่ SEC ได้ยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติม ทำให้กระบวนการทางกฎหมายยืดเยื้อออกไป ปัจจุบัน ค่าปรับที่ SEC เรียกร้องลดลงจากเดิมที่ 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 73,200 ล้านบาท) อย่างมาก

ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่าริปเปิลกำลังรอให้ พอล แอตกินส์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดย ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธาน SEC นักวิเคราะห์เชื่อว่าแอตกินส์ ซึ่งนิยมแนวทางเชิงบวกต่อคริปโต อาจช่วยลดแรงกดดันทางกฎหมายต่อริปเปิล ขณะที่ปัจจุบัน SEC อยู่ภายใต้การนำของ มาร์ค อูเอดะ ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนตลาดคริปโตมาตลอด

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอว่าริปเปิลอาจชำระค่าปรับเป็น XRP แทนเงินสด ตามนโยบาย ‘กองทุนสำรองคริปโตเชิงกลยุทธ์’ ที่ทรัมป์กล่าวถึง อย่างไรก็ตาม ริสโปลีให้ความเห็นว่า “ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นเรื่องยากที่แนวคิดดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริง”

เจมส์ เมอร์ฟี ทนายความด้านกฎหมายสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่าริปเปิลอาจพยายามเจรจากับ SEC เพื่อลดโทษ หรือทำให้คำตัดสินก่อนหน้าถูกยกเลิกบางส่วน แม้ว่าค่าปรับอาจไม่ใช่ปัจจัยลบสำหรับผู้ถือ XRP แต่การที่ริปเปิลถูกระบุว่าละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในระยะยาว

ในทางกลับกัน แอนโทนี สการามุชชี อดีตเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว แสดงความคิดเห็นว่า SEC อาจยุติคดีนี้ไปแล้ว เขาอ้างว่าในกระบวนการถอนฟ้องคดีต่อบริษัทคริปโตหลายแห่ง ริปเปิลอาจรวมอยู่ในกลุ่มที่ได้รับการพิจารณาเช่นกัน

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า คดีระหว่างริปเปิลและ SEC ไม่ได้เป็นเพียงข้อพิพาทเรื่องค่าปรับเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางกฎระเบียบคริปโตในสหรัฐฯ ในอนาคต