ราคาอีเธอเรียม(ETH) อาจดิ่งต่ำกว่า $1,900 นักลงทุนระยะยาวเสี่ยงเทขาย
ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ยังคงเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่อง หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ $2,000 และร่วงลงต่ำกว่า $1,900 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม โดยปัจจุบัน ETH กำลังซื้อขายที่ระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ มูลค่าของ ETH เทียบกับริปเปิล(XRP) ก็ลดลงอย่างมาก จนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน IntoTheBlock มี ETH จำนวน 3.56 ล้านเหรียญสะสมอยู่ในช่วงราคา $1,900-$1,843 โดยมีราคาเฉลี่ยที่ $1,871 คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ $6.65 พันล้าน หากราคา ETH ร่วงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ $1,843 อาจเกิดแรงขายเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงต่อ
การลดลงต่ำกว่า $1,843 อาจกระตุ้นการเทขายตื่นตระหนก (capitulation) ซึ่งหมายถึงการที่นักลงทุนรีบขายสินทรัพย์แม้จะขาดทุนหนัก หาก ETH อยู่ต่ำกว่าระดับนี้เป็นเวลานาน อาจนำไปสู่การร่วงลงของราคาต่อเนื่อง อีกทั้งปริมาณซื้อในช่วงราคาต่ำกว่าระดับดังกล่าวค่อนข้างน้อย สะท้อนความเปราะบางของแนวรับนี้
ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนของที่อยู่กระเป๋าเงินที่ถือ ETH กำไรลดลงเหลือ 46% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ปกติแล้วอัตราส่วนที่ต่ำมากอาจบ่งชี้ถึงจุดต่ำสุดของราคา แต่ก็ยังมีโอกาสที่ราคาจะลดลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ฮิเทช แมลวิยา(Hitesh Malviya) ผู้ก่อตั้ง DYOR Crypto แสดงความเห็นผ่าน X (ทวิตเตอร์) ว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรมอง ETH ในแง่ลบ เขาชี้ว่ากลุ่มสินทรัพย์ในโลกจริง (RWA) ขยายตัวขึ้น 50.9% ในช่วง 30 วัน และเพิ่มขึ้น 850% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดย ETH และ ZKsync ครองตลาดมากกว่า 80%
ในแง่ของแนวโน้มตลาด อัตราส่วนสถานะ Long และ Short ของ ETH ยังคงสมดุล โดยข้อมูลจาก Alphractal ระบุว่า อัตราส่วน Long/Short ล่าสุดอยู่ที่ 1.3 โดยนักลงทุนสถาบันยังคงเปิดสถานะซื้อ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยลดการใช้เลเวอเรจ ทำให้ความผันผวนลดลง
Alphractal วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า "ตลาด ETH กำลังเผชิญภาวะความผันผวนต่ำ นักลงทุนเริ่มหมดแรงและลดการใช้เลเวอเรจ" ซึ่งหมายความว่าราคาของ ETH อาจเข้าสู่ช่วงพักตัว แต่หากแนวรับหลักถูกทำลาย อาจเกิดแรงขายเพิ่มเติมและกดดันราคาลงอีก
ความคิดเห็น 0