ตำรวจออสเตรเลียเตือนมิจฉาชีพใช้ SMS ปลอมตัวเป็นไบแนนซ์ หลอกโอนคริปโต

ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย(AFP) ออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่ใช้ ‘คริปโตเคอเรนซี’ เป็นเครื่องมือ โดยกลุ่มมิจฉาชีพปลอมแปลง ‘ผู้ส่งข้อความ SMS’ ให้เหมือนกับไบแนนซ์(Binance) และหลอกล่อผู้ใช้ให้โอนเงินเข้า ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ที่ควบคุมโดยมิจฉาชีพ

ตามรายงานของ AFP ผู้ก่อเหตุส่งข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับ ‘ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของบัญชี’ ไปยังผู้ใช้ไบแนนซ์ โดยอ้างว่าต้องตั้งค่ากระเป๋าเงินใหม่ และเพื่อความแนบเนียน พวกเขาใช้ ‘ID ผู้ส่ง’ ที่เหมือนกับข้อความจากไบแนนซ์จริงๆ เมื่อเหยื่อติดต่อหมายเลขที่แนบมากับข้อความ ก็จะได้รับคำแนะนำให้โอนสินทรัพย์ไปยัง ‘กระเป๋าเงินที่ปลอดภัย’ ซึ่งแท้จริงแล้วอยู่ภายใต้การควบคุมของมิจฉาชีพ

AFP เปิดเผยว่ามีผู้เสียหายอย่างน้อย 130 รายจากการฉ้อโกงลักษณะนี้ โดยผู้บัญชาการด้านอาชญากรรมไซเบอร์ ‘เกรแฮม มาร์แชล’ ระบุว่า “เมื่อสินทรัพย์ถูกโอนเข้ากระเป๋าของมิจฉาชีพ พวกเขาจะทำธุรกรรมผ่านหลายกระเป๋าเงินเพื่อฟอกเงิน ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกู้คืน”

การโจมตีในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม มีรายงานว่ามิจฉาชีพใช้ ‘ฟิชชิ่งอีเมล’ ปลอมตัวเป็น ‘คอยน์เบส(Coinbase)’ และ ‘เจมิไน(Gemini)’ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ตั้งค่ากระเป๋าเงินใหม่โดยใช้ ‘Recovery Phrase’ ที่พวกเขากำหนด

‘จิมมี่ ซู’ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของไบแนนซ์ ได้ให้ความเห็นผ่านแถลงการณ์ของ AFP ว่า “อาชญากรอาศัยช่องโหว่ของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ” และเสริมว่า “ไบแนนซ์มีเครื่องมือช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบช่องทางการติดต่ออย่างเป็นทางการได้ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซต์หลักของเราเสมอ”

เพื่อรับมือกับปัญหานี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศแผนบังคับใช้ ‘ระบบลงทะเบียน ID ผู้ส่งข้อความ SMS’ ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ต้องตรวจสอบว่า ข้อความที่ใช้ชื่อแบรนด์ มีการลงทะเบียนผู้ส่งอย่างถูกต้องหรือไม่ นโยบายนี้คาดว่าจะนำมาใช้เต็มรูปแบบภายในปลายปี 2025 ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองระบบ

AFP ยังเตือนว่ากรณีหลอกลวงด้านการลงทุนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปีที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายจากการลงทุนที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย พุ่งสูงถึง 382 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 269 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่ง 47% ของคดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ ‘คริปโตเคอเรนซี’