ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สภาพคล่องที่ลดลง และปัจจัยทางเทคนิค
ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวในช่วง 82,400–85,300 ดอลลาร์ โดยไม่สามารถกำหนดแนวโน้มที่ชัดเจนได้ ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความไม่แน่นอนของตลาด ได้แก่ นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และแรงซื้อจากสถาบันที่ชะลอตัวลง
ปัจจัยบวกที่สนับสนุนตลาด ได้แก่ การตรึงอัตราดอกเบี้ยของ Fed การลดขนาดงบดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไป และท่าทีที่เป็นมิตรต่อคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ ล่าสุดทรัมป์ได้ประกาศว่าสหรัฐฯ ควรเป็น "มหาอำนาจด้านบิตคอยน์" พร้อมผลักดันการผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับเหรียญสเตเบิลคอยน์ นอกจากนี้ บริษัทไมโครสแตรทจี(MicroStrategy) ยังเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 130 BTC ตอกย้ำความต้องการจากนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ซินเทีย ลัมมิส(Cynthia Lummis) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายให้ลดปริมาณทองคำสำรองของประเทศ เพื่อนำเงินไปซื้อบิตคอยน์จำนวน 1 ล้าน BTC
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าภายในสหรัฐฯ และแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของ Fed เป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง โดย Fed ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2025 จาก 2.5% เป็น 2.8% พร้อมปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ยังออกมาเตือนว่าการสนับสนุนคริปโตของทรัมป์อาจสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินทั่วโลก
ขณะเดียวกัน การลดลงของสภาพคล่องในตลาดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาบิตคอยน์ ข้อมูลจากออนเชนแสดงให้เห็นว่า การเติบโตของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่เกิดขึ้นจริงของบิตคอยน์ (Realized Market Cap) ชะลอตัวลงจาก 13.2% ในเดือนธันวาคม เหลือเพียง 0.67% ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ปริมาณธุรกรรมจากนักลงทุนระยะสั้น และปริมาณเงินฝาก BTC บนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ก็ลดลงมากกว่าครึ่ง ทำให้สภาพคล่องในตลาดตึงตัวขึ้น
ด้านปัจจัยทางเทคนิค ราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวภายใน ‘รูปแบบสามเหลี่ยมขาขึ้น’ (Ascending Triangle) โดยราคายังติดอยู่ระหว่างแนวต้านแนวนอนและแนวรับของเส้นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญออกไปได้ ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป จนกว่าจะมีตัวกระตุ้นที่ชัดเจนเข้ามาในตลาด
ความคิดเห็น 0