บิตคอยน์(BTC) กำลังขยับขยายบทบาทจาก ‘ทองคำดิจิทัล’ ไปเป็นสินทรัพย์หลักในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) โดยแนวโน้ม BTC การเงิน (BTCfi) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ขับเคลื่อนด้วย ‘เทคโนโลยีไซด์เชนของบิตคอยน์’ ที่ช่วยให้สามารถใช้ BTC ในแวดวงการเงินได้อย่างกว้างขวางโดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของเครือข่ายหลัก
ในปี 2024 บิตคอยน์ได้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนาโมเดลสร้างผลตอบแทน เช่น การ ‘สเตกกิ้ง’ และ ‘การให้กู้ยืม’ ซึ่งคล้ายกับ DeFi บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเดิมที่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเลเยอร์ 1 (Layer 1) ทำให้แนวคิดนี้ยังไม่ได้รับการนำไปใช้ในวงกว้าง ส่งผลให้ ‘ไซด์เชน’ กลายเป็นทางเลือกสำคัญ โดยช่วยให้สามารถสร้างบริการทางการเงินขึ้นบนเครือข่ายแยกได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเครือข่ายหลักของบิตคอยน์
กระแสความสนใจ BTCfi เพิ่มสูงขึ้นตามราคาบิตคอยน์ที่ทะลุ 100,000 ดอลลาร์ และส่วนแบ่งตลาดคริปโตที่แตะระดับ 60% นอกจากนี้ การสนับสนุนจากนโยบายเชิงบวกของรัฐบาล เช่น ในสหรัฐฯ กำลังช่วยผลักดันให้ตลาดนี้เติบโตเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้บิตคอยน์ใน DeFi ยังถือว่าต่ำ โดยมีเพียง 0.8% ของอุปทานทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ใน BTCfi บริษัทกาแล็กซี ดิจิทัล(Galaxy Digital) ระบุว่ามูลค่ารวมของตลาด BTCfi อยู่ที่ประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.02 แสนล้านบาท) ซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 29.2 ล้านล้านบาท) อย่างไรก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานของบิตคอยน์เลเยอร์ 2 (L2) มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่านับตั้งแต่ปี 2021-2024 ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของตลาดนี้
นักลงทุนสถาบันต่างเริ่มตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยีไซด์เชน และเริ่มเข้าลงทุนอย่างจริงจัง เฉพาะในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 มีการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องสูงถึง 174 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.54 หมื่นล้านบาท) และเมื่อนับการลงทุนสะสมทั้งหมด ตัวเลขแตะระดับ 447 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.53 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า BTCfi มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
โมเดลการใช้งาน BTCfi ก็มีวิวัฒนาการเช่นกัน ก่อนหน้านี้แนวทางหลักของบิตคอยน์ใน DeFi คือ Wrapped Bitcoin (WBTC) ซึ่งใช้เครือข่ายอีเธอเรียมเพื่อสร้างสินทรัพย์ที่ผูกกับ BTC แต่ BTCfi กำลังมุ่งสู่โมเดลที่พึ่งพา ‘เทคโนโลยีบิตคอยน์’ โดยตรง แทนที่จะใช้โครงสร้างของอีเธอเรียม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างระบบการเงินที่ ‘เป็นอิสระ’ และ ‘เชื่อถือได้’ มากยิ่งขึ้น
จากแนวโน้มปัจจุบัน มีการคาดการณ์ว่า BTCfi จะขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังปี 2025 โดยโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินที่ใช้บิตคอยน์โดยตรงจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารและใช้ BTC ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสถาบันการเงินแบบรวมศูนย์ ซึ่งอาจทำให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น และมูลค่ารวมของ BTCfi เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
แม้ BTCfi จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ด้วยการสนับสนุนจากทั้งนักพัฒนาและนักลงทุน ก็อาจช่วยให้บิตคอยน์ก้าวข้ามสถานะ ‘สินทรัพย์เก็บมูลค่า’ ไปเป็น ‘แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ’ ได้อย่างเต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0