Sonic Labs ยกเลิกสเตเบิลคอยน์อิงดอลลาร์ หันพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ใช้ดีแรห์มดิจิทัลจากยูเออี

Sonic Labs ตัดสินใจยกเลิกแผนการเปิดตัวสเตเบิลคอยน์แบบอัลกอริธึมที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ และหันไปพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ที่ใช้สกุลเงินดีแรห์มของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) เป็นฐาน แสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบรับแนวโน้มการขยายระบบชำระเงินดิจิทัลที่ใช้เงินท้องถิ่น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศแผนออกสกุลเงินดิจิทัลของรัฐ หรือ *ดีแรห์มดิจิทัล(CBDC)* ภายในช่วงปลายปี 2025

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 มีนาคม อังเดร โครนเย(Andre Cronje) ผู้ร่วมก่อตั้ง Sonic Labs ได้เปิดเผยว่ากำลังพัฒนา *อัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์* ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 23% ต่อปี อย่างไรก็ตาม เขาเปลี่ยนใจและประกาศยกเลิกแผนดังกล่าวผ่าน X (เดิมคือทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยระบุว่า “เราจะไม่เปิดตัวสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับดอลลาร์อีกต่อไป" และกล่าวเสริมว่า บริษัทจะเปิดตัวดีแรห์มดิจิทัลที่ผูกค่ากับตัวเลขแบบ ‘คงที่ทางคณิตศาสตร์’ แทน ซึ่งแม้การชำระเงินจะยังดำเนินการโดยใช้ดอลลาร์ แต่จะไม่ใช่อัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์แบบเดิมอีกต่อไป

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนความกังวลต่อโมเดลเดิมของอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์ที่ยังคงมีอยู่ในอุตสาหกรรมคริปโต หลังวิกฤตในกรณีของเทรา(UST) ที่เกิดขึ้นในปี 2022 โดยอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์ UST ซึ่งเสนอผลตอบแทนสูงกว่า 20% ล้มเหลวในการตรึงค่ากับดอลลาร์ และราคาร่วงลงเหลือเพียง $0.30 ขณะที่โทเคนลูน่า ซึ่งเป็นเหรียญพี่น้อง ร่วงถึงกว่า 98% จนมูลค่าทั้งระบบหายไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์

โครนเยยังเปิดเผยว่า ตนเองมีภาวะ *ความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD)* จากการทดลองสร้างสเตเบิลคอยน์ในอดีต ซึ่งคาดว่ามีส่วนผลักดันให้เขาตัดสินใจเบี่ยงทิศในครั้งนี้

การตัดสินใจของ Sonic Labs มีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลยูเออีกำลังเดินเครื่องสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเงินดิจิทัล โดยคาลิด มูฮัมหมัด บัลลามา(Khaled Mohamed Balama) ผู้ว่าการธนาคารกลางยูเออี ระบุว่า ดีแรห์มดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้ระบบการเงินของประเทศ รวมถึงยกระดับมาตรการป้องกันฟอกเงิน โดยมีแผนที่จะเปิดใช้เงินดิจิทัลในทุกช่องทางควบคู่กับเงินสด

ด้านการใช้งานในชีวิตจริง เดวิด พัคแมน(David Pakman) พาร์ตเนอร์ของ CoinFund กล่าวว่าปัจจุบันมูลค่าเฉลี่ยของธุรกรรมด้วยสเตเบิลคอยน์มีขนาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่าการใช้งานเพื่อ *การชำระเงินขนาดเล็ก (ไมโครเพย์เมนต์)* กำลังเติบโต

ตลาดกำลังจับตาว่าการเปลี่ยนแนวทางของ Sonic Labs จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นในวงการสเตเบิลคอยน์ และผลักดันรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของระบบการเงินยุคใหม่ได้มากเพียงใด