สแกลล็อป(Scallop) ทำสถิติรายได้สูงสุด 79,920 ดอลลาร์ใน 24 ชม. ขึ้นแท่นโปรโตคอลกู้ยืมเบอร์ 2 ใน DeFi

สแกลล็อป(Scallop) หนึ่งในโปรโตคอลการให้กู้ยืมในตลาดการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) ได้บันทึกกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยสร้างรายได้รวมกว่า 79,920 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.67 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 24 ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มด้านข้อมูล DeFi อย่างดีไฟลามา(DeFiLlama) ซึ่งทำให้สแกลล็อปก้าวขึ้นมาเป็นโปรโตคอลการให้กู้ยืมที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตลาด DeFi รองจาก Aave เท่านั้น

สแกลล็อปดำเนินงานอยู่บนบล็อกเชนเลเยอร์ 1 อย่างซุย(Sui) ที่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2023 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วด้วยคุณสมบัติด้าน ‘ความเร็วในการประมวลผล’, ‘ค่าธรรมเนียมต่ำ’ และ ‘ความปลอดภัยสูง’ สถาปัตยกรรมของซุยที่ใช้ภาษา Move และโมเดลข้อมูลแบบเชิงวัตถุ ทำให้แอปพลิเคชันสามารถประมวลผลแบบขนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปในกลุ่ม DeFi ซึ่งส่งผลให้มูลค่าเงินทุนรวม (TVL) บนซุยทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.92 แสนล้านบาท) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดย ‘ความคิดเห็น’ มองว่าสแกลล็อปมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเติบโตดังกล่าว

จุดเริ่มต้นของสแกลล็อปในระบบนิเวศซุิถูกรองรับโดยกองทุนซุยอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับว่าเป็นโปรโตคอล DeFi รายแรกที่ได้รับเงินสนับสนุนโดยตรงจากมูลนิธิ นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ ได้แก่ CMS โฮลดิงส์, 6th Man Ventures และ UOB เวนเจอร์ เมเนจเมนต์ รวมถึงผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงอย่าง Dingaling, Pentoshi และ Virtual Beacon ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในตลาด

แพลตฟอร์มการกู้ยืมสแกลล็อป แลนด์(Scallop Lend) มุ่งเน้นประสบการณ์ผู้ใช้และการรักษาความปลอดภัยในระดับสูง ปัจจุบันมูลค่า TVL ของแพลตฟอร์มอยู่ที่ 130.27 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึง 34% ภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รายได้สะสมของแพลตฟอร์มสูงกว่า 3.94 ล้านดอลลาร์ (ราว 575 ล้านบาท) และมูลค่ารวมของเงินฝากและหลักประกันทะลุ 187 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.73 พันล้านบาท)

ในระบบภายใน สแกลล็อปยังมีระบบการลงคะแนนแบบ ‘ve-Model’ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือครองเหรียญ $SCA ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยมีการล็อกเหรียญมากกว่า 27 ล้าน $SCA คิดเป็นประมาณ 10% ของปริมาณโทเคนทั้งหมด โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยของการล็อกอยู่ที่ 3.72 ปี ซึ่งสะท้อนถึง ‘ความเชื่อมั่นระยะยาว’ ของชุมชนผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ สแกลล็อปยังมีการขยายระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำโทเคน ‘วอลลัส(Walrus)’ เข้ามาจดทะเบียน และร่วมมือกับกระเป๋าคริปโตของไบแนนซ์ในการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้แก่ผู้ใช้งาน

ด้วยโครงสร้างแบบโอเพนซอร์ส สแกลล็อปกำลังเปิดทางให้โครงการอื่นในบล็อกเชนซุิสามารถต่อยอดทางเทคโนโลยีบนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งกลายเป็นอีกแรงผลักดันที่ขยายขอบเขตของเครือข่ายให้เติบโตมากขึ้น ‘ความคิดเห็น’ หลายฝ่ายมองว่าสแกลล็อปกำลังกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของแพลตฟอร์มใหญ่ระดับโลกอย่าง Aave และเป็นตัวอย่างของความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของโปรโตคอลบนซุย

ในขณะที่ซุยเริ่มเข้าสู่ระยะการเติบโตอย่างเต็มตัว สแกลล็อปเองก็พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์รวมบริการ DeFi ที่ครบวงจร พร้อมจุดเด่นที่รวมทั้งเทคโนโลยีระดับสูง ชุมชนที่เหนียวแน่น และความร่วมมือภายนอกอย่างรอบด้าน แนวทางที่ผสมผสานระหว่าง ‘ความมั่นคง’ และ ‘นวัตกรรม’ ทำให้สแกลล็อปถูกคาดหมายว่าจะยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาด DeFi อย่างต่อเนื่องในอนาคต