ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำสุดในรอบ 10 วันช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จากข้อมูลล่าสุดพบว่า การเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่บางรายอาจมีบทบาทในการ ‘พยุงตลาด’ ไม่ให้ทรุดตัวลงไปมากกว่านี้ เมื่อวันที่ 30 (เวลาท้องถิ่น) ราคาบิตคอยน์ดิ่งไปถึง 81,600 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับและปรับขึ้นใกล้ระดับปิดตลาดวอลสตรีท ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดนี้อาจทำให้ตลาดเปิดวันจันทร์มีการฟอร์มตัวของ ‘ช่องว่างราคา (gap)’ ใหม่อีกครั้ง
ดานน์ คริปโต เทรด(Daan Crypto Trades) นักวิเคราะห์คริปโต รายงานว่า "สุดสัปดาห์นี้มีความเคลื่อนไหวที่รุนแรง แต่ราคาก็ฟื้นตัวกลับมาได้ระดับหนึ่ง คาดว่าเมื่อเปิดตลาดวันจันทร์ ราคาจะใกล้เคียงกับวันศุกร์" เขายังให้ความสำคัญกับ ‘gap’ ที่อาจเกิดขึ้นในตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์บน CME และจับตาปฏิกิริยาของตลาดต่อความเคลื่อนไหวนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนไม่เชื่อว่าบิตคอยน์จะสามารถกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นได้ ปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt) เทรดเดอร์ชื่อดัง ระบุว่า รูปแบบ ‘หัวไหล่กลับด้าน (inverse head-and-shoulders)’ บนกราฟดูไม่น่าเชื่อถือ เขาเตือนว่าราคาบิตคอยน์อาจร่วงลงต่อ มุ่งหน้าสู่แนวรับบริเวณ 65,635 ดอลลาร์ โดยเห็นว่าลักษณะของรูปแบบนี้ไม่น่าจะทำงานได้ดีในช่วงขาลง
แม้จะมีมุมมองเชิงลบ แต่ก็มีอีกด้านของตลาดที่มองต่าง โดยเฉพาะบรรดานักลงทุนรายใหญ่ หรือ ‘วาฬ’ ที่ทยอยซื้อบิตคอยน์เข้าในช่วงนี้ คีธ อัลแลน(Keith Alan) ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Material Indicators เปิดเผยว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักลงทุนรายใหญ่รายหนึ่งที่ใช้ชื่อเล่นว่า ‘สปูฟฟี(Spoofy)’ ได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อ ‘กดราคา’ ลง โดยการวางคำสั่งขายในระดับที่สูงเพื่อขัดขวางไม่ให้ราคาทะลุแนวต้าน พร้อมกันนั้นยังวางคำสั่งซื้อกระจุกอยู่บริเวณต่ำกว่า 78,000 ดอลลาร์
อัลแลนให้ความเห็นว่า “แม้เราจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรายเดียวกันกับที่เคยทำเช่นนี้ก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่พฤติกรรมและรูปแบบการจัดวางคำสั่งแสดงให้เห็นชัดว่าเป้าหมายคือการดึงราคาลงเพื่อซื้อในระดับต่ำมากขึ้น” เขายังชี้ว่า นักลงทุนรายนี้อาจกำลังใช้กลยุทธ์ ‘เฉลี่ยราคาต้นทุน’ หรือ DCA ซึ่งบ่งชี้ว่ามองการย่อตัวของราคาในช่วงนี้เป็นโอกาสมากกว่าเป็นความเสี่ยง
โดยรวมแล้ว ตลาดบิตคอยน์ขณะนี้กำลังอยู่ท่ามกลางแรงกดดันที่ผสมผสานกัน ทั้งฝั่งที่คาดว่าจะร่วงหาระดับใหม่ที่ราว 65,000 ดอลลาร์ และฝั่งที่เชื่อว่าการเข้าซื้อของ ‘วาฬ’ รายใหญ่จะช่วยหนุนราคาจากแนวรับได้ในระยะใกล้ 'ความผันผวนสูง' ยังคงเป็นคำสำคัญสำหรับนักลงทุน ขณะที่ทิศทางระยะต่อไปยังต้องจับตาปัจจัยภายนอก เช่น สภาพคล่องในระบบ หรือนโยบายการเงินที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้
ความคิดเห็น 0