บิตคอยน์(BTC) กำลังแสดงสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจนว่าอาจกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ในขณะที่นักลงทุนสถาบันและรายย่อยเริ่มเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในคริปโตอันดับหนึ่งของโลกอย่างรวดเร็ว แมตต์ ฮูแกน(Matt Hougan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบิตไวส์(Bitwise) ระบุว่า “ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับการลงทุนในบิตคอยน์” โดยชี้ว่านักลงทุนเริ่มขยับสัดส่วน BTC ในพอร์ตฟอลิโอจากเดิม 1% ในปี 2023 ขึ้นมาอยู่ที่ 3% และอาจสูงถึง 5% ในอนาคตอันใกล้
ความเห็นนี้สอดคล้องกับกรณีของนักลงทุนชื่อดังอย่างเควิน โอเลียรี(Kevin O’Leary) ที่ในปี 2021 เคยเพิ่มสัดส่วนบิตคอยน์จาก 3% เป็น 5% ภายในเวลาไม่ถึงปี สะท้อนแนวโน้มการเติบโตของการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในกลุ่มนักลงทุนกระแสหลัก
ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค บิตคอยน์ได้ทะลุรูปแบบ ‘ธงขาลง’ (bear flag) ขึ้นไปในช่วงกลางเดือนมีนาคม โดยราคาพุ่งจาก 78,500 ดอลลาร์ สู่ระดับสูงสุดที่ 87,450 ดอลลาร์หรือเพิ่มขึ้นกว่า 12% ขณะที่ปริมาณการซื้อขายรายวันก็เคลื่อนไหวสอดคล้องกับแนวโน้มขาขึ้น ถือเป็นสัญญาณความแข็งแกร่งทางเทคนิคที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกอย่าง ‘ท่าทีใหม่ทางการค้าของทรัมป์’ ก็ช่วยหนุนราคาคริปโตด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดหวั่นวิตกเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อเม็กซิโกและแคนาดา แต่ในเดือนมีนาคม ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะยุติการขึ้นภาษีและเปิดกว้างต่อการเจรจาใหม่อย่างสันติ โดยเมื่อวันที่ 26 ทรัมป์ถึงกับกล่าวว่า “จะไม่ยึดติดกับหลักการตอบโต้แบบเดิม แต่จะใช้วิธีที่ผ่อนปรนมากขึ้น” ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาดอย่างมาก
ตลาด ETF บิตคอยน์ก็เริ่มดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ก็มีเงินไหลเข้าสินทรัพย์บิตคอยน์ทุกวัน โดยเฉพาะในวันที่ 17 มีนาคมซึ่งตรงกับวันเซนต์แพทริก มีเม็ดเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 3,650 ล้านบาท ไหลเข้าสู่ ETF ของบริษัทใหญ่ทั้งแบล็คร็อก, ฟิเดลิตี้ และแวนเอ็ค แสดงให้เห็นว่าความต้องการในระดับสถาบันนั้นยังคงแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย ซานติเมนต์(Santiment) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ระบุว่าความรู้สึกของนักลงทุนที่มีต่อบิตคอยน์นั้นกลับมาอยู่ในระดับ ‘มองบวกสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์’ โดยเฉพาะการเปลี่ยนอารมณ์ของตลาดจาก ‘กลัวและลังเล’ ไปสู่ ‘กลัวการพลาดโอกาส’ หรือ ‘FOMO’ ซึ่งผลักดันให้ทั้งนักลงทุนรายย่อยและว่าที่ ‘วาฬ’ เข้าซื้อบิตคอยน์รวมกว่า 200,000 เหรียญ ตลอดเดือนมีนาคม
แต่สิ่งที่อาจสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนทิศทางเชิงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ ล่าสุด มีรายงานว่า หน่วยงานเฉพาะกิจด้านคริปโตที่จัดตั้งโดยทำเนียบขาวกำลังพิจารณาขายทองคำสำรองบางส่วนเพื่อนำเงินมาซื้อบิตคอยน์ ซึ่งอาจสะท้อนการเปลี่ยนมุมมองจากการมอง BTC เป็นเพียงสินทรัพย์เก็งกำไรมาสู่ ‘สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ระดับชาติ’ ความตั้งใจของรัฐบาลทรัมป์ที่ผลักดันแนวนโยบายที่เป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้น ได้ช่วยขยายความชัดเจนในเชิงกฎหมายและสนับสนุนการยอมรับในระดับอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม
เทรนด์ทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง นโยบายภาครัฐที่ผ่อนคลาย เงินทุนจากสถาบันที่เพิ่มขึ้น เรื่อยไปจนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายวัน และแนวคิดการแลก ‘ทองคำเพื่อบิตคอยน์’ ล้วนเป็นปัจจัยที่เสริมความเป็นไปได้ของตลาดขาขึ้นในปีนี้ *บิตคอยน์(BTC)* อาจเตรียมเข้าสู่ช่วงที่น่าจับตามองที่สุดในรอบหลายปี ความเคลื่อนไหวในช่วงต่อไปยังคงรอคำตอบจากตลาดโลกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลหมายเลขหนึ่งจะเดินหน้าทำสถิติใหม่ได้อีกครั้งหรือไม่
ความคิดเห็น 0