ตลาดคริปโตในสหรัฐฯ ยังคงคึกคัก โดยมี ‘บิตคอยน์(BTC)’ เป็นแกนกลางทั้งในแง่การลงทุนของสถาบันและความหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายกำกับดูแล จากรายงานช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์เคยทะลุ ‘88,000 ดอลลาร์’ ขึ้นมาเป็นครั้งคราว สะท้อนกระแสการเข้าถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐบาลและบริษัทยักษ์ในภูมิภาคอเมริกาและยุโรป ขณะที่แนวนโยบายสนับสนุนคริปโตของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ก็ช่วยเสริมแรงบวกต่อภาพรวมของตลาด
ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ มีการเสนอร่างกฎหมาย ‘การปรับปรุงการลงทุนยุคใหม่’ ซึ่งอนุญาตให้กองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐสามารถนำ *10% ของทรัพย์สิน* ไปลงทุนในบิตคอยน์โดยตรง ร่างฉบับนี้ยื่นเสนอทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยอมรับ ‘บิตคอยน์’ เป็นทองคำดิจิทัล และเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในการถือครองระยะยาว ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนแนวโน้มที่หน่วยงานภาครัฐเปิดกว้างต่อการใช้คริปโตเป็นเทียบเท่าสินทรัพย์เงินสำรอง ซึ่งอาจขยายไปยังรัฐอื่นในอนาคต
ในภาคเอกชน บริษัทเกมสต็อป(GameStop) ผู้นำธุรกิจเกมในสหรัฐฯ ประกาศแผนระดมทุน *1.3 พันล้านดอลลาร์* โดยมีเป้าหมาายนำเงินบางส่วนไปซื้อบิตคอยน์ ขณะที่ฝั่งยุโรป บริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนของฝรั่งเศสชื่อว่า 'บล็อกเชน กรุ๊ป(The Blockchain Group)' ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้เข้าซื้อบิตคอยน์ใหม่รวมมูลค่า *ประมาณ 47.3 ล้านยูโร* ในช่วงปลายเดือนมีนาคม กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของยุโรปที่ถือบิตคอยน์เป็นเงินทุนสำรอง
อีเธอเรียม(ETH) ก็มีการพัฒนาเชิงเทคนิคอย่างต่อเนื่อง *ทิม เบโก(Tim Beiko)* นักพัฒนาหลักของระบบ ออกมาเปิดเผยว่า การอัปเกรดใหญ่ชุดถัดไปในชื่อ ‘เพกตรา(Pectra)’ จะเริ่มใช้งานจริงในวันที่ *30 เมษายน 2025* อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในระบบยังซบเซา โดยปริมาณ ‘ETH ที่ถูกเบิร์น’ ลดเหลือเพียง *50 ETH ต่อวัน* สะท้อนการใช้งานเครือข่ายที่เบาบางลงในระยะนี้
ด้านริปเปิล(XRP) มีความเคลื่อนไหวสำคัญ เมื่อบริษัทตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมในคดีความยืดเยื้อกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) ส่งผลให้เรื่องราวทางกฎหมายใกล้ถึงบทสรุป ริปเปิลจะคืนเงินจำนวน *75 ล้านดอลลาร์* จากยอดปรับทั้งหมด *125 ล้านดอลลาร์* และกักเงินไว้ให้ SEC อีก *50 ล้านดอลลาร์* พร้อมกันนั้นยังได้จับมือกับ ‘ชิปเปอร์แคช(Chipper Cash)’ ผู้ให้บริการการชำระเงินในแอฟริกา เพื่อต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานการโอนเงินด้วย XRP ทั่วภูมิภาค
ในเวลาเดียวกัน บล็อกเชน ‘โซลานา(SOL)’ ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น เมื่อกองทุนในเครือของ ‘แบล็คร็อก’ ที่ชื่อว่า BUIDL ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ‘เซคิวริไทซ์(Securitize)’ ประกาศว่า นักลงทุนสามารถเข้าซื้อกองทุนผ่านระบบของโซลานาได้แล้ว ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ขยายขอบเขตของการใช้งานโซลานานอกเหนือจาก DeFi ดั้งเดิม นอกจากนี้ แพลตฟอร์มพยากรณ์ตลาด ‘โพลีมาร์เก็ต(Polymarket)’ ยังได้เปิดให้ใช้งานการฝากเงินผ่านโซลานา ยิ่งเน้นย้ำบทบาทที่เพิ่มขึ้นของบล็อกเชนนี้ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล
ในอีกกระแสหนึ่ง อัลต์คอยน์ GHIBLI ที่ถูกสร้างจากกระแสวัฒนธรรม ‘มีม’ และเทคโนโลยี ‘AI’ ทำสถิติมูลค่าตลาดแตะ *2,100 ล้านดอลลาร์* ในเวลาอันสั้น เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวฟีเจอร์สร้างภาพขั้นสูงของ OpenAI ซึ่งทำให้หัวข้ออย่างเทคโนโลยีสร้างสรรค์และคริปโตกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง *ความคิดเห็น:* กระแส ‘คริปโต + AI’ ดูเหมือนจะกลับมาเป็นเทรนด์สำคัญที่บรรดานักลงทุนต้องจับตา
โดยสรุป ตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้ถูกขับเคลื่อนด้วย ‘บิตคอยน์’ การผ่อนคลายนโยบายกำกับดูแลจากทั้งภาครัฐและท่าทีเป็นมิตรจาก *ทรัมป์* รวมถึงการเข้าร่วมของภาคธุรกิจขนาดใหญ่มากขึ้น ปัจจัยทั้งหมดนี้มีแนวโน้มผลักดันให้ราคาคริปโตเคลื่อนตัวในทางบวก ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามสัญญาณจากฝั่งการเมืองและภาคเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0