วานูอาตูออกกฎหมายควบคุมคริปโตเข้มที่สุดในแปซิฟิก-โทษสูงสุดจำคุก 30 ปี

วานูอาตูผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อควบคุมอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลภายในประเทศอย่างครอบคลุม โดยกฎหมายฉบับนี้มีโครงสร้างแบบ ‘ใบอนุญาต’ ที่มีผลบังคับใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่แนวทางแนะนำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการป้องกันประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกแห่งนี้จากนักลงทุนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม รัฐสภาท้องถิ่นได้ผ่านร่าง ‘กฎหมายผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน’ โดยคณะกรรมการบริการทางการเงินวานูอาตู (VFSC) ได้รับอำนาจให้อนุมัติและควบคุมดูแลบริษัทคริปโต พร้อมทั้งบังคับใช้มาตรฐานป้องกันการฟอกเงิน, การจัดหาเงินทุนแก่การก่อการร้าย และกฎ ‘Travel Rule’ ที่เกี่ยวข้อง กฎหมายฉบับนี้ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในระเบียบที่เข้มงวดที่สุดในด้านการเงินนอกระบบ โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึง 20 ล้านวานูอาตูวาตู (ประมาณ 262 ล้านบาท) และจำคุกได้ถึง 30 ปี

*โลเรตา โจเซฟ* ที่ปรึกษารัฐบาลซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจัดทำกฎหมาย ได้กล่าวว่า “ใครก็ตามที่พยายามหลอกลวงในวานูอาตู ต้องเผชิญกับโทษทางอาญาทันที และไม่มีทางรอดพ้น” พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์ ‘FTX’ ไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำอีก เธอยังชี้ว่า ความล่มสลายของ FTX ซึ่งมีการจดทะเบียนในบาฮามาส แสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเล็ก ๆ ที่ยังไม่มีการควบคุมที่ชัดเจน มักจะกลายเป็นเป้าหมายของอาชญากร

กฎหมายใหม่นี้ไม่เพียงครอบคลุมถึงตลาดแลกเปลี่ยนคริปโต แต่ยังรวมไปถึง *ตลาด NFT, ผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ประกอบการ ICO* ทุกประเภท โดยกำหนดให้ธุรกิจเหล่านี้ต้องขอใบอนุญาตและปฏิบัติตามหน้าที่ในการรายงาน นอกจากนี้ ยังเปิดทางให้บางธนาคารสามารถดำเนินการแลกเปลี่ยนและดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลได้ พร้อมจัดตั้ง *‘Sandbox’ ด้านกฎเกณฑ์* เพื่อให้ผู้ให้บริการที่ได้รับการอนุมัติสามารถทดลองดำเนินงานได้เป็นเวลา 1 ปี

อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ครอบคลุม *สเตเบิลคอยน์, โทเคนลักษณะหลักทรัพย์,* และ *สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง(CBDC)* โดยหน่วยงานกำกับดูแลให้เหตุผลว่า แม้สินทรัพย์เหล่านี้จะดูคล้ายกัน แต่มีลักษณะทางกฎหมายที่แตกต่างชัดเจน

VFSC ยังเปิดเผยว่า กฎหมายนี้เป็นผลจากการวิเคราะห์ความเสี่ยงเป็นเวลาหลายปี และเชื่อว่าจะช่วยผลักดัน *โอกาสด้านบริการชำระเงินข้ามพรมแดน* ด้วยคริปโต และนำไปสู่ *นวัตกรรมทางการเงิน* สำหรับประเทศ โดยระบุว่าเริ่มเตรียมการมาตั้งแต่ปี 2020 แต่ล่าช้าเพราะผลกระทบจากโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และภัยธรรมชาติ

โจเซฟ ย้ำว่า “นี่ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่เป็นกฎหมายที่ร่างขึ้นโดยมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อโครงสร้างของสินทรัพย์ดิจิทัลและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง” โดยมีความเห็นจากนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมว่า *วานูอาตู* กำลังก้าวขึ้นเป็นเขตอำนาจแรกในภูมิภาคแปซิฟิกที่มีท่าทีด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนและจริงจัง