ไบแนนซ์ระงับเทรดเทเธอร์(USDT) ในยุโรป เตรียมรับกฎ MiCA บังคับใช้สิ้นมีนาคม

ไบแนนซ์ประกาศระงับการซื้อขายแบบสปอตของเทเธอร์(USDT) และสเตเบิลคอยน์บางส่วนภายในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับกฎหมายตลาดคริปโตของสหภาพยุโรป หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘MiCA’ ซึ่งมุ่งเน้นควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มงวด การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อโครงสร้างของตลาดสเตเบิลคอยน์ในภูมิภาคยุโรป

ตามประกาศอย่างเป็นทางการของไบแนนซ์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม การซื้อขายสปอตของสเตเบิลคอยน์จำนวน 9 สกุล รวมถึงเทเธอร์(USDT) จะถูกระงับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม เป็นต้นไปเนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่ MiCA กำหนด อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์เหล่านี้ยังสามารถซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ได้ต่อไป สเตเบิลคอยน์ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ได(DAI), เฟิร์สต์ดิจิทัลUSD(FDUSD), ทรูUSD(TUSD), แพกซ์ดอลลาร์(USDP), แองเคอร์ยูโร(AEUR), เทอราUSD(UST), เทอราคลาสสิกUSD(USTC) และแพกซ์โกลด์(PAXG)

ไบแนนซ์แนะนำให้ผู้ใช้งานแปลงสินทรัพย์ของตนไปยังยูเอสดีซี(USDC) หรือยูไรต์(EURI) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ผ่านการรับรองตามเกณฑ์ของ MiCA นอกจากนี้ยังเสนอให้เทรดเดอร์ใช้งานยูโร ซึ่งเป็นเงินเฟียต ฝั่งยุโรป เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงของไบแนนซ์เท่านั้น โดยคราเคนก็ได้ถอนสเตเบิลคอยน์หลายตัวรวมถึงเทเธอร์(USDT), เพย์พาลUSD(PYUSD) และเทเธอร์EURt(EURT) ออกจากรายการในเขต EEA ขณะที่คอยน์เบสได้ดำเนินการล่วงหน้าโดยการถอด USDT ออกจากตลาดแล้ว เพื่อเตรียมตัวให้สอดรับกับ MiCA ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในอุตสาหกรรมที่กำลังปรับตัวเข้าหากฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น ด้านบางแพลตฟอร์มยังคงเปิดให้เทรด USDT ได้ในปัจจุบัน แต่อาจมีการปรับตามในอนาคต

การถอน USDT และสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ อาจกดดันสภาพคล่องภายในยูโรโซน เนื่องจากการหาตัวเลือกที่มี ‘เสถียรภาพ’ และ ‘ความน่าเชื่อถือ’ ใกล้เคียงกันไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งอาจทำให้การเทรดช้าลง และเพิ่มต้นทุนในการดำเนินการ ความเห็นจากหลายฝ่ายชี้ว่าแม้ USDC และ EURI เริ่มเปล่งประกายในฐานะทางเลือก แต่นักลงทุนจำเป็นต้องใช้เวลาสร้างความเชื่อมั่นใหม่

การดำเนินการของไบแนนซ์ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การจำกัดการซื้อขายเท่านั้น หากแต่เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการปรับตัวของตลาดคริปโตต่อแนวทางการกำกับดูแลระดับสหภาพยุโรปที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่ง *MiCA* มีบทบาทสำคัญในการคุมเข้มทั้งผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนและโครงการที่ออกสินทรัพย์ โดยเป็นก้าวสำคัญของการผลักดันคริปโตเข้าสู่กรอบกฎหมายของสหภาพยุโรปอย่างจริงจัง