บิตยูนิกซ์(BITUNIX) เปิดตัว K-Line Ultra ยกระดับวิเคราะห์กราฟผ่านมือถือครั้งแรกของโลก

บิตยูนิกซ์(BITUNIX) ได้ประกาศเปิดตัวแอปมือถือเวอร์ชันใหม่ ‘K-Line Ultra’ ซึ่งรวมฟีเจอร์การใช้งานจากเทรดดิงวิว(TradingView) เป็นครั้งแรกในโลกของระบบนิเวศคริปโต โดยมุ่งหวังยกระดับประสบการณ์การวิเคราะห์กราฟผ่านมือถือให้เทียบเท่ากับเดสก์ท็อป ซึ่งนับเป็นการตั้งมาตรฐานใหม่ด้านการใช้งานที่สอดคล้องกับเทรนด์การเทรดผ่านมือถือที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

K-Line Ultra มาพร้อมฟีเจอร์ขั้นสูงมากมาย เช่น การซิงก์ข้อมูลการเทรดแบบเรียลไทม์ การแก้ไขคำสั่งซื้อขายจากหน้าแผนภูมิ และอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ตามผู้ใช้ นักเทรดสามารถเปิดใช้งานเวอร์ชันนี้จากการตั้งค่าในแอป แล้วใช้งานฟีเจอร์แบบลากนิ้ว (swipe), ซูมเข้า–ออก, และลากวิเคราะห์กราฟได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้แท่งเทียนหลายรูปแบบ ตัวชี้วัดทางเทคนิค (technical indicators), เส้นแนวโน้ม, เครื่องมือฟีโบนัชชี และกรอบเวลา (time frames) หลากหลายเพื่อการวิเคราะห์เชิงลึก

ด้านระบบคำสั่งซื้อขาย ก็ได้รับการปรับปรุงให้แม่นยำมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถใช้แถบเลื่อนเพื่อกำหนดจุดซื้อขายได้อย่างแม่นยำ พร้อมขยับตำแหน่ง ‘จุดตัดขาดทุน’ (stop-loss) และ ‘เป้าหมายทำกำไร’ (take-profit) ได้อย่างสะดวก อินเทอร์เฟซนี้ยังซิงก์แบบเรียลไทม์กับแพลตฟอร์มเว็บไซต์ ทำให้การใช้งานระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ​‘อู๋’ (KX Wu) ประธานฝ่ายปฏิบัติการของบิตยูนิกซ์กล่าวว่า ฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นนวัตกรรมที่ "แม้แต่คู่แข่งก็ยังไม่สามารถนำเสนอได้" และย้ำว่าทีมงานได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประสบการณ์เป็น ‘มิตรกับผู้ใช้’ ที่สุด

บิตยูนิกซ์ก่อตั้งเมื่อปี 2021 และมีการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างรวดเร็ว โดยเวอร์ชัน 1 เน้นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ส่วนเวอร์ชัน 2 ได้เพิ่มฟังก์ชันการฝากเงินผ่านระบบชำระเงินภายนอก ในปี 2023 บริษัทได้เปิดตัวตลาด P2P และในปี 2024 มีการเปิดใช้งานฟีเจอร์คัดลอกคำสั่งเทรด (copy trading), ฟังก์ชันการแปลงสินทรัพย์ และระบบมาร์จิ้นแบบหลายสินทรัพย์ ฟีเจอร์เด่นอย่างระบบ ‘เทรดผ่านหลายหน้าต่าง’ ที่สามารถแสดงกราฟได้ถึง 16 หน้าจอพร้อมกัน ยังถือเป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่ไม่มีใครเทียบได้

ในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ บิตยูนิกซ์ก็ไม่หยุดพัฒนา โดยในปี 2024 บริษัทได้ตั้งกองทุนประกันผู้ใช้มูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 73 ล้านบาท) พร้อมทั้งเปิดตัวระบบพิสูจน์สินทรัพย์ (Proof of Reserve) เพื่อเสริมความโปร่งใส ล่าสุด บิตยูนิกซ์ติดอันดับท็อป 15 ของกระดานเทรดจาก CoinMarketCap และ CoinGecko และปรากฏอยู่ใน 10 อันดับแรกของการจัดอันดับโดย Coinglass

ปัจจุบัน แพลตฟอร์มของบิตยูนิกซ์รองรับคู่เทรดมากกว่า 700 คู่ พร้อมเลเวอเรจสูงสุดถึง 125 เท่า มีผู้ใช้งานมากกว่า 2 ล้านรายจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายรายวันทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.3 แสนล้านบาท) ซึ่งแสดงถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดอนุพันธ์ระดับโลก

ในอนาคต บิตยูนิกซ์มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เช่น ฟีเจอร์สัญญา COIN-M และบริการสร้างรายได้จากดอกเบี้ย รวมถึงขยายการปรากฏตัวในกิจกรรมระดับโลก ล่าสุดได้เข้าร่วมงาน Blockchain Life 2024 ที่ดูไบ, TOKEN2049 ที่สิงคโปร์ และกิจกรรม Middle East ETH ที่ซาอุดิอาระเบีย โดยมีแผนร่วมงาน Blockchain Week ที่ปารีส และ TOKEN2049 ที่ดูไบในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทางบิตยูนิกซ์กล่าวทิ้งท้ายว่า การยกระดับประสบการณ์วิเคราะห์กราฟบนมือถือให้เทียบเท่ากับเดสก์ท็อป จะเป็น ‘ก้าวสำคัญ’ ที่เปลี่ยนจุดศูนย์กลางของการเทรดคริปโตไปสู่มือถือ พร้อมให้คำมั่นว่าบริษัทยังคงยึดมั่นในการพัฒนา ‘นวัตกรรมที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง’ ต่อไปอย่างต่อเนื่อง