ไบแนนซ์ครองตลาดคริปโตสปอต ปี 2025 ด้วยส่วนแบ่ง 43% ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น

ไบแนนซ์แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในตลาดซื้อขายคริปโตแบบสปอตอีกครั้งในปีนี้ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ทิ้งคู่แข่งรายอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น โดยข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายสะสมของไบแนนซ์ในปี 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,774 ล้านล้านวอน แซงหน้าแพลตฟอร์มชั้นนำอื่นๆ อย่างคอยน์เบส, คริปโตดอทคอม และ OKX อย่างชัดเจน

คริปโตควอนต์ระบุว่า ไบแนนซ์ครอง ‘ส่วนแบ่งตลาด’ ในการซื้อขายแบบสปอตสูงถึง 43% ของตลาดโลก หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 6,670 ล้านล้านวอน) ในปีนี้ ขณะที่อันดับ 2 อย่างคริปโตดอทคอมมีส่วนแบ่งอยู่เพียง 12.12% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าไบแนนซ์มีปริมาณการซื้อขายมากกว่าหลายแพลตฟอร์มรวมกัน ด้วยข้อได้เปรียบดังกล่าว ไบแนนซ์จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ ‘สภาพคล่อง’ และ ‘ประสิทธิภาพในการจับคู่คำสั่งซื้อ’ สูงที่สุดในตลาดปัจจุบัน

แม้ก่อนหน้านี้จะมี ‘ความเห็น’ จากผู้เชี่ยวชาญว่า แพลตฟอร์มที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอย่างใกล้ชิดน่าจะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ทว่าไบแนนซ์เองกลับสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดได้จากฐานผู้ใช้งานทั่วโลกจำนวนมากและสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว ที่ไบแนนซ์เคยแตะจุดต่ำสุดของส่วนแบ่งตลาดในรอบ 4 ปีจากความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ แต่กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไบแนนซ์และบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐอย่าง BAM Management ได้ยื่นคำร้องร่วมกับอดีตซีอีโอ จางเผิง เจา(CZ) ต่อศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐ เพื่อขอ "ระงับการพิจารณาคดีชั่วคราว" จากกรณีที่ถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ตรวจสอบข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายหลักทรัพย์ ซึ่งคดีดังกล่าวเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2023 การยื่นคำร้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยไม่จำเป็น และเพื่อมองหาแนวทาง ‘ยุติข้อพิพาท’ อย่างเร็วที่สุด โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา SEC ได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจด้านคริปโตขึ้นใหม่ โดยมีมาร์ก อูเอะดะ(Mark T. Uyeda) เป็นประธาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่ ‘ชัดเจนและคาดการณ์ได้’ ให้กับอุตสาหกรรม

อีกแรงผลักสำคัญที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดคือ *คำสั่งบริหารเชิงสนับสนุนคริปโต* ของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ประกาศใช้ภายหลังการเข้ารับตำแหน่ง คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้บางนโยบายเข้มงวดของ SEC ถูกย้อนกลับ และผลักดันให้เกิดการพูดคุยเรื่อง ‘เกณฑ์ทางกฎหมายที่ชัดเจน’ มากขึ้น แทนการมุ่งใช้บทลงโทษ

รายงานฉบับนี้สะท้อน ‘ความแข็งแกร่งในการฟื้นตัว’ และศักยภาพในการขยายตัวของไบแนนซ์ได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นว่า ‘การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ’ จะกลายเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางการแข่งขันของตลาดซื้อขายคริปโตในอนาคต