ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
นักลงทุนในตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศมาตรการ ‘ภาษีตอบโต้’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายนนี้ โดยถูกตั้งชื่อว่า ‘วันแห่งการปลดปล่อย (Liberation Day)’ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง *บิตคอยน์(BTC)* และตลาดคริปโตโดยรวม
เป้าหมายหลักของมาตรการภาษีรอบใหม่คือ 15 ประเทศที่เคยขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ มาก่อน เช่น จีน, แคนาดา และเม็กซิโก ส่งผลให้ตลาดวิตกว่าจะนำไปสู่การทวีความรุนแรงของสงครามการค้าโลกอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนไปยังการปรับตัวของดัชนี S&P 500 ที่ร่วงลงเกือบ 2% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ความวิตกเหล่านี้สะท้อนมายังตลาดคริปโต โดย *บิตคอยน์(BTC)* ยังคงเคลื่อนไหวในระดับ 80,000 ดอลลาร์โดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน หลังจากที่เคยพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์เมื่อต้นปี
มาร์ก ออสต์วอลด์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก ADM อินเวสเตอร์ เซอร์วิส อินเตอร์เนชันแนล ให้ความเห็นว่า “ตลาดกำลังสูญเสียความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยง และ *คริปโต* ยังคงเป็นทรัพย์สินที่สะท้อนจิตวิทยาการลงทุนไวที่สุดในกลุ่มนี้” โดยในช่วงเดียวกัน ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 18% นับตั้งแต่ต้นปี ตอกย้ำความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนกลับมองว่านโยบายของทรัมป์อาจเป็น ‘ผลดีกลับ’ ให้กับ *บิตคอยน์* โอมิด มาลเลแคน อาจารย์ประจำโรงเรียนธุรกิจมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มองว่า “มุมมองที่ว่า ‘ทองคำ’ คือที่พึ่งเดียวในการป้องกันความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเริ่มจะลดลง และ ‘ทองคำดิจิทัล’ อย่าง *บิตคอยน์* กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะเครื่องมือการกระจายความเสี่ยง”
แจ็ก แฟนเดิล หัวหน้าฝ่ายวิจัยของเกรย์สเกล(Grayscale) ระบุว่า “ผลลบของมาตรการภาษีใหม่น่าจะถูกสะท้อนไปในราคา *บิตคอยน์* บางส่วนแล้ว หากตลาดปรับตัวเข้ากับสถานการณ์นี้ได้ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว” เขาเสริมว่า หากความขัดแย้งทางการค้าทำให้เกิดการลดความต้องการถือดอลลาร์ สกุลเงินทางเลือกอย่าง *บิตคอยน์* ย่อมมีโอกาสได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้น
แฟนเดิลยังชี้ว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดอย่างการเตรียม IPO ของ เซอร์เคิล และการเข้าถึงตลาดคริปโตจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น อาจช่วยผลักดันราคา *บิตคอยน์* ทะลุระดับสูงสุดเดิมในช่วงปลายปีนี้ ความเห็นนี้สอดคล้องกับซิด พาวเวล ผู้ร่วมก่อตั้งเมเปิล(Maple) ที่กล่าวว่า “หากทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีเบาลงกว่าคาด อาจกระตุ้นความรู้สึกกลัวพลาดโอกาส(FOMO) ของนักลงทุน และกลายเป็นแรงกระตุ้นราคาชั่วคราว”
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เตือนว่า หากมาตรการภาษีผลักดันให้ดอลลาร์แข็งค่าหรือส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศชะลอลง ก็อาจยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับ *คริปโต* ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง
นักวิเคราะห์บางคนยังมองว่า หากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกลับมา และธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย ก็จะเป็นอีกปัจจัยบวกต่อการลงทุนใน *คริปโต* เพราะการลดดอกเบี้ยมักเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาด และทำให้ *สินทรัพย์ทางเลือก* อย่าง *บิตคอยน์* ดูน่าสนใจมากขึ้น
แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่านโยบายการค้าของทรัมป์จะส่งผลต่อราคา *บิตคอยน์* อย่างไร แต่ในบริบทที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ การเงินการคลัง และบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกล้วนมีผลกระทบเชื่อมโยงกัน คำแถลงของทรัมป์ในวันที่ 2 เมษายนนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแนวโน้มตลาด ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ความคิดเห็น 0