บิตคอยน์(BTC)เผชิญจุดชี้ชะตา นักวิเคราะห์ชี้หากฝ่าแนวต้านสำคัญได้ อาจพุ่งแตะ 300,000 ดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC)กำลังเผชิญกับจุดชี้ชะตาในการกลับเข้าสู่ตลาดกระทิงอีกครั้ง โดยหลังจากที่เคยพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 110,000 ดอลลาร์ (ราว 3.98 ล้านบาท) ในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 86,500 ดอลลาร์ (ราว 3.13 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นการปรับฐานราว 6% ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน

อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์ตลาดคริปโตชี้ว่า บิตคอยน์จำเป็นต้องผ่านแนวต้านสำคัญสองระดับคือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 86,200 ดอลลาร์ และเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ 88,300 ดอลลาร์ หากสามารถรักษาระดับราคาปิดให้อยู่เหนือแนวต้านดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่แรงซื้อจะกลับมาอีกครั้ง กลายเป็น ‘แรงส่ง’ สำคัญสำหรับแนวโน้มขาขึ้น

ขณะที่นักวิเคราะห์เทคนิคอย่างเกอร์ท ฟาน ลาเกน(Gert van Lagen) มองว่า บิตคอยน์ได้ปรับฐานลงมาทดสอบและดีดตัวขึ้นจากแนวรับที่เกิดจากรูปแบบ ‘เฮดแอนด์โชลเดอร์’ ในรอบ 4 ปี หากสามารถรักษาการปรับขึ้นนี้ไว้ได้ ก็มีโอกาสที่จะได้เห็นบิตคอยน์พุ่งสู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 300,000 ดอลลาร์ (ราว 10.85 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าระดับปิดรายสัปดาห์ที่ 74,400 ดอลลาร์ (ราว 2.69 ล้านบาท) ความเป็นไปได้ของแนวโน้มขาขึ้นก็อาจถูกลบทิ้ง

ทางด้านคริปโต WZRD อินฟลูเอนเซอร์สายคริปโตระบุว่า หากบิตคอยน์สามารถฝ่าแนวต้านที่ 85,000 ดอลลาร์ (ราว 3.07 ล้านบาท) ไปได้ ก็มีโอกาสขึ้นต่อถึง 91,500 ดอลลาร์ (ราว 3.31 ล้านบาท) แต่หากหยุดอยู่ที่ระดับดังกล่าวและไม่สามารถฝ่าไปได้ การกลับตัวสู่ขาลงก็เป็นไปได้ว่าจะทำให้ราคาลงไปถึง 78,200 ดอลลาร์ (ราว 2.83 ล้านบาท) หรือต่ำกว่านั้น

อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์(BitMEX) อ้างอิงปัจจัยมหภาคว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ภายใต้แรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะกลายเป็นตัวกระตุ้นขาขึ้นของบิตคอยน์อีกครั้ง โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต

โดยรวม ตลาดกำลังจับตาทิศทางแนวต้านสำคัญของบิตคอยน์และปัจจัยนโยบายการเงินจากธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสถานการณ์ที่สัญญาณเทคนิคและสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจโลกผสมผสานเข้าด้วยกัน ความสามารถในการผ่านระดับราคาวิจารณ์เหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินว่าตลาดคริปโตจะกลับมา ‘ร้อนแรง’ อีกครั้งหรือไม่