DeepSeek: AI โอเพ่นซอร์สจากจีนที่เขย่าวงการและท้าทายสหรัฐฯ

DeepSeek โอเพ่นซอร์ส AI ที่ท้าทายระบบรวมศูนย์ สร้างแรงกระเพื่อมในสหรัฐฯ

DeepSeek ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์(AI) แบบโอเพ่นซอร์ส กำลังแสดงศักยภาพในการแข่งขันกับระบบ AI แบบรวมศูนย์ ซึ่งทำให้เกิดการประเมินว่าเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สกำลังไล่ตามและอาจก้าวนำระบบรวมศูนย์

ดร.อาลา ชาบานา(Ala Shaabana) ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ OpenTensor กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา การพัฒนา AI แบบโอเพ่นซอร์สมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว จนสามารถแข่งขันกับระบบรวมศูนย์ได้ โดยการเปิดตัวของ DeepSeek เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เขากล่าวว่า “DeepSeek สามารถบรรลุประสิทธิภาพสูงในต้นทุนที่ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับโมเดล AI แบบดั้งเดิม” และเสริมว่า “โมเดลนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประสิทธิภาพ ปัญญาร่วม และนวัตกรรม สามารถต่อกรกับอำนาจทุนที่แข็งแกร่งได้”

นอกจากนี้ เขายังวิเคราะห์ว่าการเปลี่ยนแปลงในวงการวิชาการมีบทบาทสำคัญในการเร่งให้ AI แบบโอเพ่นซอร์สเติบโตขึ้น นักวิจัยถูกกำหนดให้ต้องเปิดเผยโค้ดเมื่อนำเสนอผลงานในวารสารวิชาการ ทำให้แนวทางแบบโอเพ่นซอร์สได้รับความนิยมมากขึ้น

ประเด็นด้านกฎหมายและกฎระเบียบก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจเป็นประโยชน์ต่อ AI แบบโอเพ่นซอร์ส ดร.ชาบานา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบ AI แบบรวมศูนย์กำลังเผชิญกับข้อกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงข้อจำกัดด้านข้อมูลในแต่ละประเทศ ซึ่งสร้างภาระให้กับบริษัทขนาดใหญ่ ในขณะที่ AI แบบโอเพ่นซอร์สมีข้อได้เปรียบที่ไม่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดเหล่านี้” ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมนี้สามารถลดช่องว่างระหว่างสองแนวทางได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน DeepSeek ซึ่งได้รับการพัฒนาในจีน ก็กำลังสร้างแรงกระเพื่อมในวงการการเมืองของสหรัฐฯ หลังการเปิดตัวโมเดลนี้ มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับกฎระเบียบ AI อย่างเข้มข้น และบางฝ่ายถึงกับมองว่ามันเป็น ‘เหตุการณ์หงส์ดำ’ ที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ

เมื่อวันที่ 29 มกราคม โจช ฮอว์ลีย์(Josh Hawley) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายที่มีเป้าหมายเพื่อห้ามการนำเข้าเทคโนโลยี AI จากจีน และป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยี AI ของสหรัฐฯ ไปยังจีน โดยเขาให้เหตุผลว่า “การลงทุนและการถ่ายโอนข้อมูลไปยังเทคโนโลยี AI ของจีน อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ในอนาคต”

การปรากฏตัวของ DeepSeek กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งในแวดวง AI และการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก ทำให้การแข่งขันระหว่าง AI แบบรวมศูนย์และ AI แบบโอเพ่นซอร์สยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง