DeFi ต้องเสริมความเข้มงวดด้านกฎระเบียบ หากหวังดึงภาคการเงินแบบดั้งเดิมร่วมตลาด

หากภาคการเงินแบบดั้งเดิม(TradFi) ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) อย่างจริงจัง DeFi จะต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารความเสี่ยงที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

ปัจจุบัน ตลาดบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการพูดคุยถึงความร่วมมือระหว่าง DeFi และภาคการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมยังคงลังเลที่จะเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง เนื่องจากปัญหาด้าน ‘กฎระเบียบที่ไม่แน่นอน’ ข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น มาตรการป้องกันการฟอกเงิน(AML) และการตรวจสอบลูกค้า(KYC) รวมถึงความโปร่งใสและความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

นักวิเคราะห์เชื่อว่าหาก DeFi สามารถเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และพัฒนาเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โอกาสความร่วมมือกับภาคการเงินแบบดั้งเดิมจะขยายตัวตามไปด้วย แม้ว่าในปัจจุบัน สถาบันการเงินชั้นนำจะตระหนักถึงความสามารถของบล็อกเชนในการเพิ่มประสิทธิภาพและสภาพคล่อง แต่จนกว่า DeFi จะวางมาตรฐานการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ชัดเจน สถาบันเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะยังคงระมัดระวัง

ในขณะเดียวกัน ธนาคารและบริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลกบางแห่งเริ่มทดลองใช้แนวทางใหม่ ๆ ในการนำสินทรัพย์มาสู่บล็อกเชน บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง แบล็คร็อก ไวส์ดอมทรี และแฟรงคลิน เทมเพิลตัน กำลังใช้แนวทางโทเค็นไอเซชัน(Tokenization) เพื่อให้กองทุนส่วนบุคคลและตราสารหนี้สามารถซื้อขายบนบล็อกเชนได้ ขณะที่ ซิตี้กรุ๊ป กำลังทดสอบการโทเค็นไอซ์สินทรัพย์ส่วนตัวบนบล็อกเชนของอวาแลนช์(AVAX)

นักวิเคราะห์มองว่า สำหรับ DeFi ที่ต้องการสร้างความไว้วางใจจากภาคการเงินแบบดั้งเดิมและเพิ่มโอกาสในการเป็นพันธมิตร ควรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรฐาน KYC และ AML อย่างเข้มงวด พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีความซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งยังควรร่วมมือกับบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน เช่น เชนนาลิซิส เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

ในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า หาก DeFi สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น โซลูชันความเป็นส่วนตัว โปรโตคอลการทำงานร่วมกัน(interoperability) และระบบประกันภัยมาใช้ ก็จะสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น และเปิดทางให้ความร่วมมือกับภาคการเงินแบบดั้งเดิมเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุด DeFi อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินกระแสหลัก และลดช่องว่างระหว่างระบบการเงินทั้งสองฝ่ายได้ในที่สุด