ตลาดหุ้นโลกดิ่งแรง ฉุดบิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะ 74,000 ดอลลาร์ แม้ 'วาฬ' เร่งสะสมหนัก

เมื่อวันที่ 7 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างรุนแรง สะเทือนต่อตลาดการเงินทั่วโลก โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงถึง 2.79% ในช่วงต้นตลาด และหลุดจากจุดสูงสุดเกินกว่า 20% ส่งผลให้เข้าสู่ ‘ตลาดหมี’ อย่างเป็นทางการ มูลค่าตลาดรวมสูญเสียไปมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 2,920 ล้านล้านวอนภายในวันเดียว

สถานการณ์มีแนวโน้มพลิกผันชั่วคราวเมื่อเกิดข่าวลือในโซเชียลมีเดียว่า ‘ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วัน’ ดัชนี S&P 500 จึงรีบาวด์กลับขึ้นใกล้ระดับ 6% ขณะที่ราคาบิตคอยน์(BTC) ก็ทะลุระดับ 80,000 ดอลลาร์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้นทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว ส่งผลให้กระแสราคาในตลาดคริปโตกลับทิศในเวลาเพียง 30 นาที

แม้ว่า S&P 500 จะกลับตัวขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากยังคงระมัดระวังและแสดงความไม่มั่นใจในแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น โดยชี้ให้เห็นว่าสาเหตุเชิงโครงสร้างของภาวะตลาดขาลงยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงมองว่าการฟื้นตัวครั้งนี้อาจเป็นเพียงการรีบาวด์ระยะสั้นเท่านั้น

ในวันเดียวกัน ตลาดการเงินฝั่งเอเชียก็ไม่สามารถต้านทานแรงกระเพื่อมได้ โดยเฉพาะฮ่องกงที่ตลาดหุ้นร่วงถึง 13% ซึ่งถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินเอเชีย ส่วนดัชนีสำคัญในเซี่ยงไฮ้ ไทเป และโตเกียว ก็อ่อนค่าลงในช่วงประมาณ 7~10% ขณะที่ดัชนีนิกเคอิ 225 ล่วงหน้าเผชิญกับการหยุดซื้อขายชั่วคราวจากมาตรการ ‘เซอร์กิตเบรกเกอร์’ หลังเกิดความผันผวนเกินขอบเขตที่กำหนด

อีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงดำรงจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีน โดยขีดเส้นตายถึงวันที่ 9 หากจีนยังไม่ยกเลิกภาษี 34% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ สหรัฐฯ จะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีอีก 50% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งทำให้สงครามภาษีระหว่างสองชาติมหาอำนาจร้อนแรงยิ่งขึ้น

บิตคอยน์(BTC) แม้ว่าช่วงปลายสัปดาห์ก่อนจะเคลื่อนไหวอย่างแยกตัวจากตลาดโดยรวม แต่ในวันที่ 7 ราคาก็ร่วงลงถึง 6.5% แตะระดับต่ำสุดใหม่ของปีคือ 74,457 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ฮูลิโอ โมเรโน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของคริปโตควอนต์(CryptoQuant) เตือนนักลงทุนว่า “*นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อบิตคอยน์*” และแนะนำให้ใช้ความระมัดระวัง

ถึงแม้ราคาบิตคอยน์จะอยู่ในช่วงอ่อนตัว แต่ข้อมูลออนเชนล่าสุดสะท้อนภาพตรงกันข้าม โดยนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ กลับเลือกใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการสะสม เห็นได้จากรายงานของบริษัทข้อมูลบล็อกเชนชื่อดังอย่าง *Glassnode* ว่าดัชนี ‘Accumulation Trend Score’ พุ่งแตะระดับ 1.0 ซึ่งบ่งบอกถึงเฟสการซื้อเต็มรูปแบบ ข้อมูลยังเผยว่า บัญชีที่ถือครองมากกว่า 10,000 BTC ได้เพิ่มปริมาณสะสมมากถึง 129,000 BTC ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม

พื้นที่ราคาประมาณ 74,000 ดอลลาร์ในตอนนี้กลายเป็นระดับแนวรับสำคัญ โดยมีหลักฐานบนบล็อกเชนว่า บิตคอยน์กว่า 50,000 เหรียญถูกถือครองไว้โดยไม่เคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม นอกจากนี้ กลุ่มผู้ลงทุนรายย่อยที่ถือครองระหว่าง 1 ถึง 100 BTC กลับแสดงท่าทีขายอย่างชัดเจน โดยดัชนีสะสมลดลงอยู่ที่เพียง 0.1~0.2 เท่านั้น สะท้อนภาวะตลาดที่กำลังแตกขั้วระหว่างผู้เล่นรายใหญ่และรายเล็ก

แอกเซล แอดเลอร์ จูเนียร์ นักวิเคราะห์บิตคอยน์ ระบุว่า “ปริมาณซัพพลายบิตคอยน์ที่ยังคงเคลื่อนไหวยังคงล้ำหน้าการเปลี่ยนแปลงรายปีของโทเคนที่ใช้งานจริง” โดยมองว่านี่เป็นโครงสร้างที่มักปรากฏในตลาดกระทิง และอาจเป็น *สัญญาณของความต้องการที่แข็งแกร่งในระยะยาว*

แม้สภาพตลาดจะผันผวนในระยะสั้น แต่จากแนวโน้มการสะสมของวาฬและข้อมูลออนเชนเกี่ยวกับอุปสงค์ แสดงให้เห็นถึง *ความเป็นไปได้ของการฟื้นตัวในระดับกลางถึงยาว* สำหรับบิตคอยน์อย่างชัดเจน