ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) เริ่มแสดงสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง โดยรีบาวด์กลับมาอยู่ใกล้ระดับ 78,000 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วทะลุแนวรับจิตวิทยาที่ 80,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 6 ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการดิ่งลงของดัชนีตลาดล่วงหน้าสหรัฐฯ และแตะระดับต่ำสุดของปีที่ 74,508 ดอลลาร์ในวันถัดมา อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้ออย่างแข็งแกร่งในช่วงราคาดังกล่าวได้ช่วยดันราคากลับขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และความกังวลด้านเศรษฐกิจมหภาคสร้างบรรยากาศความกลัวในตลาดคริปโตอย่างเห็นได้ชัด โดยดัชนี 'ความกลัวและความโลภ' ของสหรัฐฯ ร่วงลงเหลือเพียง 4 คะแนนจาก 100 สะท้อนถึงภาวะ "ความกลัวสุดขีด" ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นจุดต่ำสุดของความเชื่อมั่นในตลาดและนำไปสู่แรงซื้อสวนทาง
แม้จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่ตลาดยังเผชิญกับ ‘ความผันผวนสูง’ ในระยะสั้น บ่งชี้ถึงความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจที่เกินควร ผู้เชี่ยวชาญแนะให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดอย่าง ไมโครสเตรทจี(MSTR) ยังเลือกชะลอการซื้อเพิ่มเติมในช่วงนี้
สำหรับแนวโน้มราคาข้างหน้า การเบรคแนวต้านระยะสั้นถือเป็น ‘ปัจจัยชี้ขาด’ หากสามารถฝ่าระดับแนวต้านได้สำเร็จ ราคาบิตคอยน์อาจทะลุ 89,000 ดอลลาร์ และมีโอกาสไปแตะ 95,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านแนวดังกล่าวได้ อาจต้องกลับไปทดสอบแนวรับที่ 73,777 ดอลลาร์ และหากทะลุลงมาอีกจุดรับถัดไปอยู่ที่ 67,000 ดอลลาร์
ฝั่งของอีเธอเรียม(ETH) การที่ราคาหลุดแนวรับที่ 1,754 ดอลลาร์ส่งผลต่อความเชื่อมั่น จนอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยที่ระดับ 1,550 ดอลลาร์ก็ยังไม่พบแรงซื้อชัดเจน ขณะที่ดัชนี RSI ที่เข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป ‘อาจ’ บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวระยะสั้น หากเกิดการดีดกลับ แนวต้านที่ต้องจับตาคือโซน 1,754 ดอลลาร์ถึง 1,853 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (EMA)
ริปเปิล(XRP) เคลื่อนไหวใต้ระดับ 2 ดอลลาร์ และได้ก่อตัวรูปแบบขาลง ‘Head and Shoulders’ จนราคาหลุดลงมาต่ำกว่า 1.77 ดอลลาร์ โดยทางเทคนิคแล้วระดับ 2 ดอลลาร์กลายเป็นแนวต้านสำคัญ หากไม่มีแรงซื้อที่โดดเด่นกลับมา ราคาอาจร่วงลงต่อแตะ 1.27 ดอลลาร์
BNB เคลื่อนตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA 20 วันและระดับฟีโบนัชชี 61.8% จากนั้นรีบาวด์เล็กน้อยจากโซน 520 ดอลลาร์ แต่แรงขายที่เกิดใกล้เส้นค่าเฉลี่ยอาจผลักดันราคากลับลงอีกสู่แนวรับเดิมที่ 500 ดอลลาร์ หรือแย่กว่านั้นอาจไปถึง 460 ดอลลาร์
โซลานา(SOL) ทำลายแนวรับหลักแถบ 120~110 ดอลลาร์แบบชัดเจน ถือเป็นสัญญาณเข้าสู่แนวโน้มขาลง ปัจจุบันพยายามดีดกลับจากบริเวณ 95 ดอลลาร์ แต่แรงขายด้านบนยังรออยู่ หากไม่มีแรงซื้ออย่างจริงจัง ราคาอาจร่วงต่อไปที่ 80 ดอลลาร์
ดอจคอยน์(DOGE) ดีดขึ้นได้ในจังหวะเสี่ยงหลุดแนวรับสำคัญที่ 0.14 ดอลลาร์ ปัจจัยชี้วัดฝั่งขาขึ้นคือการทะลุ EMA 20 วันที่ 0.17 ดอลลาร์ ถ้าทำได้อาจเปิดทางสู่ระดับ 0.19 ดอลลาร์ แต่หากไม่สำเร็จอาจกลับไปทดสอบแนวรับเดิมที่ 0.10 ดอลลาร์
คาร์ดาโน(ADA) สูญเสียแนวรับที่ 0.58 ดอลลาร์ และร่วงลง ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาใกล้ 0.50 ดอลลาร์ ทว่าเพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง ต้องผ่านด่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA) ที่ 0.73 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนยันแนวโน้มนั้นได้ ราคามีความเสี่ยงลดลงถึง 0.40 ดอลลาร์
สำหรับ UNUS SED LEO(LEO) รูปแบบ ‘สามเหลี่ยมขาขึ้น’ ล้มเหลวเมื่อทะลุแนวโน้มขาลงเมื่อวันที่ 4 เมษายน สัญญาณขาขึ้นถูกรบกวน โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 8.84 ดอลลาร์ หากหลุดแนวนี้ อาจถอยต่อไปที่ 8.30 ดอลลาร์ และเพื่อกลับเข้าสู่ฝั่งขาขึ้นอีกครั้ง ราคาต้องฟื้นเหนือระดับ 9.90 ดอลลาร์ให้ได้
ในภาพรวม การเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตยังเปราะบาง แม้มีสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน แต่ยังคงมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกและระดับเทคนิค แนะนักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดและเลือกกลยุทธ์ตามสถานการณ์เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมในสภาวะนี้
ความคิดเห็น 0