‘ภาษีทรัมป์’ กระทบหนัก อุตสาหกรรมเครื่องขุดบิตคอยน์(BTC) สหรัฐ เสี่ยงสูญเสียส่วนแบ่งตลาดโลก

นโยบายการเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังส่งแรงสั่นสะเทือนต่อ *อุตสาหกรรมเครื่องขุดบิตคอยน์(BTC)* ในสหรัฐ โดยบริษัท *แฮชแล็บส์ ไมนิ่ง(Hashlabs Mining)* ประเมินว่า ความต้องการของเครื่องขุดภายในประเทศกำลังดิ่งลงอย่างชัดเจน และผู้ผลิตอาจจำเป็นต้องหันไปพึ่งตลาดนอกสหรัฐแทน

จาราน เมลเลอรูด(Jaran Mellerud) ซีอีโอของแฮชแล็บส์ ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 8 ว่า "ราคาของเครื่องจักรในสหรัฐกำลังพุ่งสูง ขณะที่ประเทศอื่นๆ กลับมีแนวโน้มราคาลดลง" พร้อมเตือนว่า "ความต้องการส่งออกมายังสหรัฐอาจหายไปเกือบหมด" เขาเสริมว่า อุปกรณ์ที่ผลิตมาเพื่อขายในสหรัฐโดยเฉพาะ อาจค้างสต๊อกจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องเร่งขายทิ้งในต่างประเทศผ่านการลดราคาเพื่อรักษาระดับยอดขาย

ในอดีตบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น *บิตเมน(Bitmain)*, *ไมโครบีที(MicroBT)* และ *คานาน(Canaan)* เคยย้ายโรงงานผลิตจากจีนไปยังไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อลดผลกระทบจากภาษี 25% ที่บังคับใช้ช่วงรัฐบาลทรัมป์เมื่อปี 2018 แต่ในรอบใหม่นี้ ‘ภาษีแบบมีการตอบแทน’ หรือ reciprocal tariffs ถูกประกาศใช้ โดยประเทศเหล่านั้นถูกเก็บภาษีเพิ่มถึง 36%, 32% และ 24% ตามลำดับ ซึ่งหมายความว่าผู้ผลิตเหล่านี้ต้องเจอกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอีกครั้ง

ผลกระทบต่อราคาเริ่มเห็นได้ชัด โดยเครื่องขุดบิตคอยน์ที่เคยมีราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์ (ราว 146,000 บาท) ในสหรัฐ มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,240 ดอลลาร์ (ราว 181,000 บาท) ขณะที่ในประเทศอย่างฟินแลนด์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี ราคากลับคงที่ ความคิดเห็นของเมลเลอรูดชี้ว่า *“ด้วยความเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อค่าใช้จ่าย การเพิ่มราคาถึง 22% เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจขุดในสหรัฐ"*

แม้ภาษีเหล่านี้อาจถูกยกเลิกในอนาคต แต่ความน่าเชื่อถือดูเหมือนจะไม่สามารถฟื้นกลับมาได้โดยง่าย เมลเลอรูดกล่าวว่า “แม้จะยกเลิกภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่นักลงทุนรายใหญ่ก็จะไม่กล้าเข้ามา เพราะไม่มีใครเชื่อมั่นว่านโยบายจะไม่กลับลำอีก” เดิมทีผู้ประกอบการขุดในอเมริกาคาดหวังความมั่นคงจากการกลับมาของทรัมป์ แต่ *ตอนนี้กลับต้องเผชิญกับผลกระทบจากความผันผวนด้านนโยบาย* ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องแบกรับ

ปัจจุบัน สหรัฐยังคงรับผิดชอบประมาณ 40% ของ *ค่าแฮชเรตของบิตคอยน์ทั่วโลก* แม้เมลเลอรูดมองว่าการลดลงในทันทีอาจยังไม่เกิดขึ้น แต่เขาประเมินว่าแนวโน้มการเติบโตในตลาดนี้ของสหรัฐมีความไม่แน่นอนสูง และอาจส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของประเทศลดลงในระยะยาว “ด้วยการขยายตัวที่ยากลำบากมากขึ้น ทำให้สหรัฐอาจค่อยๆ เสียพื้นที่ในเวทีระดับโลก”

ด้านตลาดคริปโตเคอร์เรนซี *บิตคอยน์* ได้รับผลกระทบจากข่าวภาษีเช่นกัน โดยปรับตัวลดลง 4% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 76,470 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.11 ล้านบาท) ลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 108,786 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.59 ล้านบาท) ซึ่งทำได้เมื่อวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว

‘ภาษีทรัมป์’ กำลังเปลี่ยนทิศทางของอุตสาหกรรมเครื่องขุดบิตคอยน์ ทั้งในแง่การผลิต การจำหน่าย รวมไปถึงการลงทุนในสหรัฐ *อนาคตของการขุดในอเมริกาอาจจะไม่สว่างสดใสอย่างที่หลายคนเคยคาดหวังไว้*