ไมเคิล เซย์เลอร์ ส่งสัญญาณลุยซื้อบิตคอยน์เพิ่ม
หลังจากที่ไมโครสแตรตีจี(MicroStrategy) ภายใต้การนำของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ได้สะสมบิตคอยน์(BTC) อย่างต่อเนื่องตลอด 12 สัปดาห์ก่อนจะหยุดชะงักไปราวหนึ่งสัปดาห์ ล่าสุดเซย์เลอร์ได้โพสต์ภาพกราฟราคา ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทอาจเตรียมเดินหน้าซื้อต่ออีกครั้ง
จากข้อมูลของ SaylorTracker ปัจจุบันไมโครสแตรตีจีถือครองบิตคอยน์จำนวน 471,107 BTC มูลค่ารวมประมาณ 44.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.65 ล้านล้านบาท) แม้ราคาจะมีการปรับฐานแต่กำไรที่ยังไม่ได้ขาย (Unrealized Profit) ยังคงสูงกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5.17 แสนล้านบาท)
นอกจากนี้ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ บริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 โดยพบว่ามีผลขาดทุนสุทธิ 670 ล้านดอลลาร์ (ราว 9.7 หมื่นล้านบาท) และประกาศเปลี่ยนชื่อจากไมโครสแตรตีจีเป็น ‘สตราทีจี(Strategy)’ เพื่อรีแบรนด์องค์กรใหม่
**โครงการภาครัฐของอีลอน มัสก์ช่วยสหรัฐฯ ประหยัด 3.67 หมื่นล้านดอลลาร์**
ในขณะเดียวกัน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐของอีลอน มัสก์(Elon Musk) ซึ่งใช้บล็อกเชนของด็อกคอยน์(DOGE) ได้ช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ ประหยัดงบประมาณได้ถึง 3.67 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.33 ล้านล้านบาท) ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงถึงความโปร่งใสในการใช้จ่ายของรัฐอีกครั้ง
จากข้อมูลของ DOGE-Tracker ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็น 1.8% ของเป้าหมายการลดการใช้จ่ายของรัฐที่มัสก์เคยประกาศไว้ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับมาร์ค เพน นักกลยุทธ์ทางการเมืองเมื่อวันที่ 9 มกราคม ขณะที่ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ซีอีโอของคอยน์เบส(Coinbase) ชื่นชมว่า “นี่คือความสำเร็จครั้งใหญ่ของด็อกคอยน์” และเน้นย้ำว่าหากบล็อกเชนถูกนำมาใช้กับระบบงบประมาณของรัฐ ประชาชนจะสามารถติดตามการใช้จ่ายได้แบบเรียลไทม์
**ตลาดคริปโตฯ อาจถึงจุดต่ำสุดตามมุมมองนักวิเคราะห์**
ด้านเฟลิกซ์ ฮาร์ทมันน์(Felix Hartmann) ผู้ก่อตั้งฮาร์ทมันน์ แคปิทอล(Hartmann Capital) คาดการณ์ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอาจแตะ ‘จุดต่ำสุด’ แล้ว
เขาโพสต์ผ่าน X (อดีต Twitter) ว่าการที่ตลาดฟิวเจอร์สมีกระแสเงินไหลออก (Negative Funding Rate) พร้อมกับบรรยากาศซบเซา อาจเป็นสัญญาณว่าราคาใกล้ถึงจุดต่ำสุด โดย Negative Funding Rate หมายถึงแรงขายที่สูงกว่าการซื้อ ซึ่งบางครั้งอาจบ่งชี้ถึงสัญญาณรีบาวด์
ขณะนี้อีเธอเรียม(ETH) ซื้อขายอยู่ที่ 2,639 ดอลลาร์ (ราว 9.4 หมื่นบาท) ลดลงจากระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ราว 1.42 แสนบาท) ในเดือนธันวาคม ขณะที่โซลานา(SOL) ซึ่งทำสถิติสูงสุดในเดือนมกราคมที่ 295 ดอลลาร์ (ราว 1.05 หมื่นบาท) ก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ 201.15 ดอลลาร์ (ราว 7,000 บาท)
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดชี้ว่า แม้ราคาจะผันผวนในระยะสั้น แต่อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนที่เน้นระยะยาว โดยปัจจัยด้าน Funding Rate และตัวชี้วัดทางเทคนิคจะเป็นกุญแจสำคัญในการพิจารณาแนวโน้มตลาดในอนาคต
ความคิดเห็น 0