บิตคอยน์(BTC) พุ่ง 8.9% หลังทรัมป์ระงับเก็บภาษีนำเข้าจาก 75 ประเทศ หนุนตลาดคริปโตคึกคัก

ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากกว่า 75 ประเทศเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก โดยบิตคอยน์(BTC) พุ่งขึ้น 8.9% แตะระดับ 82,350 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า นักลงทุนกลับเข้าตลาดอีกครั้งท่ามกลางความคลี่คลายของความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ดันราคาของเหรียญหลักอื่นๆ ให้ฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน

ตามมาตรการใหม่ สหรัฐจะลดภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าหลักลงมาอยู่ที่ระดับ 10% เพื่อเปิดทางสำหรับการเจรจาต่อรอง ในขณะที่ยังคงท่าทีแข็งกร้าวกับจีน ด้วยการขึ้นภาษีถึง 125% ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ทรัมป์กล่าวว่า การระงับภาษีในบางประเทศเป็นความพยายามเพื่อสร้างบรรยากาศให้เกิด ‘ข้อตกลงอย่างเป็นธรรม’ ด้านสกอตต์ เบสเซินต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า นี่คือกลยุทธ์เพื่อเสริมอำนาจการเจรจาระดับโลก

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การเพิ่มภาษีต่อจีนอาจเร่งให้เกิดการไหลออกของเงินทุน และทำให้ชาวจีนจำนวนมากหันมาใช้คริปโตอย่างบิตคอยน์(BTC) เป็นเครื่องมือหลีกเลี่ยงการควบคุมเงินทุน *ความคิดเห็น* มีการประเมินว่าการอ่อนค่าของเงินหยวนจากมาตรการของทรัมป์อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความต้องการคริปโตที่เพิ่มขึ้น

ในโลกของกฎระเบียบ ข่าวดีอีกด้านคือการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) คนใหม่ โดยวุฒิสภาได้ลงมติรับรอง พอล แอทกินส์(Paul Atkins) สายตรงจากทำเนียบขาว ให้ดำรงตำแหน่งแทนแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ซึ่งมีจุดยืนเข้มงวดต่ออุตสาหกรรมคริปโต โดยแอทกินส์แถลงว่าจะให้ความสำคัญกับการจัดตั้งกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนและยืดหยุ่นมากขึ้น

หลังการเปลี่ยนผู้นำ SEC มีการยกเลิกแนวทางบัญชีสำหรับคริปโตที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมหยุดการดำเนินคดีบางกรณีที่ฟ้องร้องบุคคลในอุตสาหกรรม และจัดตั้ง ‘หน่วยงานพิเศษด้านคริปโต’ เพื่อเปิดช่องทางการสื่อสารโดยตรงกับภาคเอกชน *ความคิดเห็น* ความคาดหวังเกี่ยวกับการลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบจึงเพิ่มสูงขึ้น

ผลกระทบในทันทีสะท้อนผ่านราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยบริษัทด้านกลยุทธ์คริปโตปรับตัวขึ้นถึง 24% ในวันเดียว และคอยน์เบส(COIN) พุ่ง 16.8% นโยบายด้านภาษีและท่าทีที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมคริปโตของรัฐบาลทรัมป์มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง โดยเฉพาะเมื่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลกเริ่มมีเสถียรภาพ ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป