Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บล็อก(Block) เปิดตัวเครื่องมือโอเพนซอร์สหนุนบริษัทบริหารบิตคอยน์(BTC) อย่างมีประสิทธิภาพ

Thu, 10 Apr 2025, 09:25 am UTC

บล็อก(Block) เปิดตัวเครื่องมือโอเพนซอร์สหนุนบริษัทบริหารบิตคอยน์(BTC) อย่างมีประสิทธิภาพ / Tokenpost

เพื่อสนับสนุนการวางแผนกลยุทธ์ทางการเงินด้วยบิตคอยน์(BTC) บริษัทฟินเทคสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบล็อก(Block) เปิดตัวเครื่องมือจัดการแบบโอเพนซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ บริหารสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 9 ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทที่นำโดยผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์ แจ็ค ดอร์ซีย์(Jack Dorsey) ประกาศเปิดตัวชุดเครื่องมือจัดการทางการเงินที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถถือครองและใช้งานบิตคอยน์ได้อย่างเป็นระบบ โดยเครื่องมือดังกล่าวมีฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น API สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ และแดชบอร์ดที่ปรับตามความต้องการของแต่ละองค์กร นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้งานผ่าน GitHub พร้อมระบบแก้ไขและเพิ่มเติมฟังก์ชันได้อย่างอิสระ

บล็อกยังมีแผนจะเพิ่มฟีเจอร์การเรียกดูข้อมูลราคาในอดีตเพื่อรองรับการจัดทำรายงานผลประกอบการรายไตรมาส โดยต้นแบบของโปรเจ็กต์นี้พัฒนาขึ้นจาก ‘Goose’ ซึ่งเป็นเอเจนต์ AI แบบโอเพนซอร์สที่พัฒนาโดยบล็อก และได้รับการปรับปรุงโดยทีมวิศวกรของบริษัทให้สามารถใช้งานได้จริง ทั้งนี้บริษัทเน้นย้ำว่าเครื่องมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม ‘ความร่วมมือและความโปร่งใส’ ระหว่างบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์ ขณะเดียวกันยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการกำหนดกลยุทธ์ทางการเงินอีกด้วย

บล็อกถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ทางการเงินอย่างจริงจัง โดยเริ่มซื้อตามวิธีถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ตั้งแต่ปี 2020 และปัจจุบันมีการถือครองอยู่ที่ 8,485 BTC ซึ่งจัดอันดับอยู่ในระดับท็อป 8 ของโลก ทั้งนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้ผ่านแพลตฟอร์ม BitcoinTreasuries

สำหรับเหตุผลในการถือครองบิตคอยน์ บล็อกระบุว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าของเงินตรา, การกระจายพอร์ตสินทรัพย์ และการเสริมสร้างความกลมกลืนเชิงกลยุทธ์กับอุตสาหกรรมคริปโต นอกจากนี้ ยังมองว่าท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ‘บิตคอยน์สามารถช่วยปรับปรุงผลตอบแทนแบบปรับความเสี่ยงแล้วได้’

อย่างไรก็ตาม ตลาดบิตคอยน์เองก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองเช่นกัน โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ภายใต้นโยบายเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในอัตราสูงของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในตลาด โดยบริษัทสแตรเทจิ (ชื่อเดิม ไมโครสแตรเทจิ) ซึ่งถือบิตคอยน์มากที่สุดในโลก รายงานว่ามีผลขาดทุนที่ยังไม่รับรู้สูงถึง 5,910 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.7 แสนล้านวอน

ขณะเดียวกัน บริษัทจดทะเบียนในเกาหลีใต้อย่างเมตาแพลนเน็ต และ AI ฟิวชั่นแคปิตอลกรุ๊ป ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากนโยบายภาษีของทรัมป์เช่นกัน โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลง หลังจากถูกเชื่อมโยงกับการถือครองบิตคอยน์ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ตลาดจึงกำลังให้ความสนใจกับทิศทางการใช้บิตคอยน์ของบริษัทต่างๆ และความก้าวหน้าของเครื่องมือที่มาช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1