ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 9 ว่าจะ ‘เลื่อนการเก็บภาษีตอบโต้’ จากหลายประเทศออกไปเป็นเวลา 90 วัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดคริปโตก็ตอบรับในทันที โดย *บิตคอยน์(BTC)* พุ่งขึ้นกว่า 5% ภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว ทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ 83,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ของเดือน
ในวันเดียวกัน *ดัชนี S&P500* ก็เพิ่มขึ้นถึง 8% อย่างไรก็ตาม สัญญาณจากตลาดอนุพันธ์ของบิตคอยน์ยังคงแสดงความระมัดระวัง สาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนเรื่องทิศทางของ *ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)* โดยเฉพาะความผันผวนของ *อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของสหรัฐฯ*
ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สชี้ให้เห็นว่า ‘พรีเมียมของสัญญาล่วงหน้า BTC ระยะเวลา 2 เดือน’ แม้จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% ซึ่งถือเป็นจุดกึ่งกลางของตลาด แต่ท้ายที่สุดก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ราว 4% ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนว่า ฝ่ายเชียร์ขาขึ้นของบิตคอยน์ยังสามารถป้องกันแนวรับที่ระดับ 76,000 ดอลลาร์ได้
ในอีกด้านหนึ่ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ดิ่งลงในวันเดียวกัน กลับกลายเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกทั่วทั้งตลาด หลังการเปิดเผยรายงานประชุม FOMC เมื่อวันที่ 9 ซึ่งเน้นย้ำความเสี่ยงของภาวะ *Stagflation* หรือภาวะสินค้ายืนราคาแต่เศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมกับตัวเลขเงินเฟ้อสูง ละทำให้ความมั่นใจในการลดดอกเบี้ยของเฟดลดลง โดยข้อมูลจาก FedWatch Tool ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงต่ำกว่า 4% ภายในเดือนกันยายน ลดลงจาก 97.6% เหลือเพียง 69.7% ภายในวันเดียว
*ปีเตอร์ บุคบาร์(Peter Boockvar)* นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง แสดงความคิดเห็นว่า “แนวต้านทางเทคนิคของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีอยู่ที่ระดับ 4.4%” พร้อมชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ลง ซึ่งหากแนวโน้มการขายยังดำเนินต่อไป อาจกดดัน ‘มูลค่าดอลลาร์’ ให้ลดต่ำลงจากความจำเป็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น
ขณะที่ตลาดออปชันของบิตคอยน์ก็บ่งชี้ถึงความระมัดระวังคล้ายกัน โดยทั่วไปในภาวะขาลง ค่า *25% Delta Skew* จะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 6% จากการเร่งซื้อ ‘พุทออปชัน’ ขณะที่ในขาขึ้น ค่านี้จะติดลบต่ำกว่า -6% ซึ่งภายหลังจากที่จีนประกาศภาษีตอบโต้ทันทีในวันที่ 9 ค่าดังกล่าวพุ่งแตะระดับ 12% ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3% หลังเสียงตอบรับเชิงบวกจากการประกาศเลื่อนภาษีของทรัมป์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดยังไม่ได้เลือกข้างอย่างชัดเจน และสถานะขาลงที่มีมาตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมก็อาจสิ้นสุดลงแล้ว
นอกจากนี้ สัญญาณจากตลาด *ฟิวเจอร์สแบบ Perpetual* ของบิตคอยน์ก็ถูกนำมาวิเคราะห์ด้วยเช่นกัน โดย ‘อัตรา Funding Rate เฉลี่ย 30 วัน’ เพิ่มขึ้นแตะ 0.9% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ แต่ยังคงอยู่ภายในช่วงกลางระหว่าง 0.4% ถึง 1.4% สะท้อนว่ากลุ่มนักลงทุนรายย่อยเริ่มกลับเข้าตลาด แต่ยังไม่ถึงขั้นหลอมรวมความเชื่อมั่นอย่างเต็มรูปแบบ
แม้ตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ในระยะสั้น แต่ *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังสงวนท่าที โดยเชื่อว่า ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังไม่ถูกคลี่คลาย และแนวโน้มของบิตคอยน์จะกลับเข้าสู่ขาขึ้นอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกจาก *ปัจจัยมหภาค* โดยเฉพาะการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว.
ความคิดเห็น 0