ริปเปิล(XRP) ทุ่ม 1.25 พันล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการ Hidden Road ดัน XRPL เจาะตลาดสถาบัน

ริปเปิล(XRP) กำลังเร่งขยายกิจการในระดับโลกด้วยการเดินหน้าในแนวทางที่มากกว่าการพัฒนาเทคโนโลยี ล่าสุดเมื่อสัปดาห์นี้ บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของ ‘ฮิดเดนโรด(Hidden Road)’ ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับสินทรัพย์หลายประเภท ด้วยมูลค่าสูงถึง 1.25 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 45,600 ล้านบาท ส่งผลให้ริปเปิลกลายเป็นบริษัทสายคริปโตรายแรกที่ถือครองนายหน้าระดับพรีเมียมอย่างเต็มตัว การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายการใช้งานของบัญชีแยกประเภท XRP (XRPL) ในหมู่องค์กรมากขึ้น

เดวิด ชวาร์ตซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของริปเปิล ระบุว่า การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยฮิดเดนโรดมีลูกค้าสถาบันมากกว่า 300 ราย และดำเนินการซื้อขายมากกว่า 50 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งเขาเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันต่อการใช้งาน XRPL นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการต่อยอดไปยังการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริงเป็นโทเคนบน XRPL โดยปัจจุบันริปเปิลได้ร่วมมือกับกระดานซื้อขายคริปโต ‘อาร์แค็กซ์(Archax)’ เปิดตัวกองทุน Money Market Fund แบบโทเคนที่ขับเคลื่อนด้วย XRPL แล้วเรียบร้อย

ขณะเดียวกัน ไบแนนซ์(Binance) ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา หลังตัดสินใจถอดถอน 14 โทเคนออกจากแพลตฟอร์ม ตามผลการโหวตของชุมชนผู้ใช้งานครั้งแรก โครงการที่ถูกถอดออก เช่น แบดเจอร์(BADGER), บาลานเซอร์(BAL), ครีมไฟแนนซ์(CREAM), สเตตัส(SNT) และ นูลส์(NULS) ต่างถูกชี้เป้าว่ามีปัญหาด้านพัฒนาการและปริมาณการซื้อขายต่ำ ทีมงานของไบแนนซ์ระบุว่า พวกเขาใช้เกณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่ระดับกิจกรรมของนักพัฒนาไปจนถึงการตอบสนองต่อการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ

รัฐบาลปากีสถานเองก็ไม่ยอมนิ่งเฉยในสนามแข่งคริปโต เมื่อได้แต่งตั้ง จางเผิง เจา(Changpeng Zhao) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘CZ’ อดีตซีอีโอของไบแนนซ์ เป็นที่ปรึกษาของ ‘คณะกรรมการคริปโตแห่งปากีสถาน(PCC)’ ซึ่งเพิ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา PCC มีภารกิจในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม รวมถึงกำหนดระเบียบและส่งเสริมการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ตัวแทนของ PCC กล่าวว่าปากีสถานต้องการดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก และมองว่าประเทศที่มีต้นทุนต่ำและโครงสร้างเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาอย่างปากีสถานคือโอกาสทองสำหรับนักพัฒนาเว็บ 3

แม้จะมีความไม่แน่นอนด้านนโยบายและความผันผวนทางเศรษฐกิจ จากคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ในการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 104% แต่ภาพรวมของตลาดคริปโตก็ยังคงมองในแง่ดี ในงานที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส นักวิเคราะห์ชื่อดัง ไมเคิล ฟาน เดอ โพป จาก MN Capital มองว่านี่อาจเป็นช่วงเริ่มต้นของตลาดกระทิงรอบใหม่ เขาเปรียบเทียบสถานการณ์กับช่วงต้นวิกฤตโควิด-19 เมื่อปี 2020 และชี้ว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเข้ามาแทรกแซงเช่นเดิม ส่วน เอริก เทอร์เนอร์ ซีอีโอของเมซารี่(Messari) เห็นว่ายังไม่ใช่ตลาดกระทิงอย่างแท้จริง แม้จะมีแรงหนุนจาก ETF และกระแสมีมคอยน์ก็ตาม

การรุกหนักของริปเปิลควบคู่ไปกับการเปิดทางของรัฐบาลในตลาดเกิดใหม่ แสดงให้เห็นชัดว่า อุตสาหกรรมคริปโตไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราวอีกต่อไป แต่กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้าง ซึ่งการขยายตัวของ XRPL และการสนับสนุนในระดับประเทศ อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดในอนาคต *ความคิดเห็น*