ริปเปิล(XRP) พุ่ง 13% หลังทรัมป์เลื่อนภาษี–ETF ใหม่หนุนแรงซื้อ แต่เทคนิคชี้แนวโน้มขาลง

ริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้นกว่า 13% ภายในวันเดียว ทะลุระดับ 2 ดอลลาร์ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเลื่อนมาตรการเก็บภาษีตอบโต้กับทุกประเทศยกเว้นจีนออกไป 90 วัน อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงรุนแรงมากขึ้น เมื่อทรัมป์ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 125% จากมาตรการเดิม

แรงส่งในเชิงบวกของปัจจัยมหภาคเหล่านี้ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการเปิดตัวกองทุน ETF ที่อ้างอิงราคาของ XRP ภายใต้ชื่อ XXRP ETF ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก อาร์กา (NYSE Arca) อย่างไรก็ตาม เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายรายแสดงสัญญาณว่า ‘การดีดตัวครั้งนี้อาจไม่ยืนนาน’

ริปเปิลเคลื่อนไหวในรูปแบบสามเหลี่ยมหัวกลับนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โครงสร้างนี้มีแนวรับแนวนอนและแนวต้านที่ลดต่ำลงเรื่อย ๆ ซึ่งโดยทั่วไปอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวลง ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา ราคาของ XRP ทะลุแนวรับที่ระดับ 2 ดอลลาร์ลงมา หากราคาลงต่อเท่าระยะการหลุดออกจากแพทเทิร์น ราคามีโอกาสจะลดลงถึงระดับ 1.20 ดอลลาร์ภายในสิ้นเดือน ซึ่งคิดเป็นการลดลงราว 33% จากราคาในปัจจุบัน

นักเทรด CasiTrades เสริมหัวข้อดังกล่าวด้วยการวิเคราะห์ผ่านทฤษฎี ‘คลื่นเอลเลียต (Elliott Wave)’ โดยเขาชี้ว่า XRP อาจลดลงสู่ระดับ 1.55 ดอลลาร์ พร้อมระบุว่า จุดต้านที่ 1.81 ดอลลาร์มีความสำคัญทางเทคนิคอย่างมาก หากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ การร่วงลงสู่ 1.71 ดอลลาร์ และต่อเนื่องไปถึง 1.55 ดอลลาร์ก็มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งเขาระบุว่าบริเวณดังกล่าวเป็นโซน ‘อัตราส่วนทองคำ’ ของชุดฟีโบนักชี

ด้านปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt) เทรดเดอร์ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ก็เข้าร่วมทัศนะในทิศทางเดียวกัน โดยชี้ให้เห็นว่า ‘แพทเทิร์นหัว-ไหล่ (Head and Shoulders)’ เริ่มประกฏในกราฟรายวันของ XRP และเตือนถึงแนวโน้มการร่วงลงต่อไปถึงระดับ 1.07 ดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ETF ที่ชื่อว่า XXRP ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้น NYSE Arca เมื่อวันที่ 8 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอสมควร โดยเป็นกองทุนแบบเลเวอเรจที่มุ่งหวังกำไรสองเท่าจากการเคลื่อนที่ของราคา XRP วันแรกมีการซื้อขายรวมกว่า 5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 73 พันล้านวอน แต่อีริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์จาก Bloomberg มองว่านี่เป็น ‘ระดับประสิทธิภาพที่อยู่ในกลุ่มอันดับ 5% แรก’ เมื่อเทียบกับ ETF ที่เปิดตัวใหม่ทั้งหลาย แม้จะน้อยกว่ากองทุน IBIT ของแบล็คร็อกในการเปิดตัววันแรก แต่ก็ถือว่าทำผลงานได้ดี

แม้ว่าการเปิดตัว ETF จะสะท้อนถึงความคืบหน้าในการเปิดรับ XRP เข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก แต่ตลาดก็ยังตอบสนองอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า และสัญญาณเทคนิคที่บ่งชี้ถึงแรงกดดันขาลง โดยเฉพาะท่าทีเรื่องภาษีของทรัมป์ที่ยังคงเพิ่มความไม่แน่นอนต่อทั้งตลาดคริปโตโดยรวม และการเคลื่อนไหวของ XRP โดยเฉพาะ