ริปเปิล(XRP) ร่วงทะลุแนวรับสำคัญ ท่ามกลางแรงกดดันมหภาคและสัญญาณเทคนิคขาลง

ตลาดคริปโตกำลังเผชิญแรงกดดันท่ามกลางภาวะขาลงอีกครั้ง โดย ‘ริปเปิล(XRP)’ ได้ร่วงทะลุแนวรับสำคัญ และมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่แน่นอน ขณะนี้ XRP ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.82 ดอลลาร์ หรือราว 2,660 บาท ลดลงมากกว่า 50% จากจุดสูงสุดเมื่อต้นปี ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความกังวลในวงกว้างของตลาด และสร้างความไม่มั่นใจในหมู่นักลงทุน

ในขณะเดียวกัน เรย์ ดาลิโอ(Ray Dalio) นักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคชื่อดังและผู้ก่อตั้งกองทุนบริจด์วอเทอร์ แอสโซซิเอทส์ ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงของ‘การล่มสลายของเศรษฐกิจโลก’ โดยระบุว่าหนี้สะสมทั่วโลกได้เข้าสู่จุดวิกฤต โดยเฉพาะหนี้สาธารณะของสหรัฐที่สูงถึง 36.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.35 ล้านล้านบาท ซึ่งดาลิโอมองว่า ‘ไม่สามารถฟื้นคืนได้’ ยิ่งไปกว่านั้น การขาดดุลการคลังที่ขยายต่อเนื่องยังอาจนำไปสู่สถานการณ์ช็อกในตลาดการเงิน

หลังคำแถลงของดาลิโอ ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ในตลาดคริปโตก็สูญเสียมูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 2.19 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะ XRP ซึ่งมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จึงถูกมองว่าอาจเผชิญแรงกดดันในการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

จากมุมมองเทคนิค แนวโน้มของ XRP ยังดูไม่สดใส ปัจจุบันกราฟราคาชี้ให้เห็นถึง ‘รูปแบบหัวและไหล่’ ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นสัญญาณกลับทิศทางขาลง อีกทั้งแนวรับสำคัญที่ 1.9195 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,800 บาท ก็ได้พังลงเรียบร้อยแล้ว โดยบริเวณนี้มีความสำคัญในฐานะระดับฟีโบนักชี 50% ที่หากทะลุอาจนำไปสู่การเร่งขายต่อเนื่อง แนวรับถัดไปถูกประเมินไว้ที่ประมาณ 1.06 ดอลลาร์ หรือราว 1,550 บาท ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ XRP จำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนใหม่เพื่อเปลี่ยนทิศทางตลาด

อย่างไรก็ตาม ‘ความคิดเห็น’ ในระยะยาวยังมีสัญญาณบวกอยู่บ้าง โดยทางบริษัทริปเปิล กำลังพัฒนาระบบชำระเงินทั่วโลกซึ่งอาจเข้ามาแทนที่ระบบ SWIFT แบบดั้งเดิมได้ ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีดังกล่าวอาจนำไปสู่การใช้งานกับสถาบันการเงินในวงกว้าง นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ก็กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ ‘XRP ETF’ ซึ่งหากสำเร็จอาจดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบัน และช่วยสร้างแรงหนุนให้กับราคา XRP อีกครั้ง

ด้านสถาบันการเงินระหว่างประเทศอย่าง สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้ออกมาคาดการณ์ว่า XRP อาจแซงหน้า อีเธอเรียม(ETH) จากมูลค่าตลาดภายใน 5 ปี และอาจขึ้นไปแตะราคา 12.50 ดอลลาร์ หรือราว 18,250 บาท ภายในปี 2028 แต่ ‘ความคิดเห็น’ มองว่าเส้นทางนี้ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย เนื่องจากจำเป็นต้องปิดคดีความกับ SEC อย่างสมบูรณ์ ปรับปรุงกฎระเบียบระดับสากล และขยายการใช้งานจริงในระดับองค์กรเสียก่อน ส่งผลให้โอกาสในการฟื้นตัวในระยะสั้นยังคงจำกัด

ช่วงเวลานี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ XRP ซึ่งกำลังยืนอยู่ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งปัจจัยมหภาคระหว่างประเทศ และสัญญาณเทคนิคที่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน