ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค ทำให้ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน แม้จะสามารถดีดตัวขึ้นใกล้ระดับ 75,000 ดอลลาร์ในวันที่ 7 และ 9 เมษายน แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้หรือไม่
นักวิเคราะห์บางรายไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทะลุเส้นแนวโน้มมากนัก โดยปีเตอร์ แบรนต์ นักเทรดผู้มีประสบการณ์ ระบุบนบัญชี X ของเขาว่า ‘เส้นแนวโน้ม’ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีความหมายที่สุดในการวิเคราะห์กราฟ แต่ไม่ควรใช้เพียงจุดเดียวในการสรุปแนวโน้ม ขณะที่นักวิเคราะห์ เควิน สเวนสัน มองในทางตรงกันข้าม โดยชี้ถึง ‘ดัชนี RSI รายสัปดาห์’ ที่มีแนวโน้มทะลุขึ้น ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็น ‘สัญญาณขาขึ้นที่เชื่อถือได้มากที่สุด’ ในทางเทคนิค
ด้านข้อมูลการซื้อขาย บริษัทรวบรวมข้อมูล คริปโตควอนท์(CryptoQuant) รายงานว่า ‘ดัชนีความต่างระหว่างการไหลเข้า-ออกจากกระดานเทรดในรอบ 30 วัน’ แสดงสัญญาณฟื้นตัวในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่าเร็วเกินไปที่จะถือว่านี่เป็นการเปลี่ยนแนวโน้ม เนื่องจากเคยเกิดรูปแบบนี้ในปี 2021 ซึ่งแม้จะมีการดีดตัวระยะสั้นเกิดขึ้นหลังช่วงที่มีดีมานด์ต่ำ แต่ ‘แนวโน้มขาขึ้นที่มั่นคง’ ก็ใช้เวลาพอสมควรในการปรับฐานก่อนจะเกิดขึ้นจริง
ด้าน ‘ปริมาณการซื้อขาย’ ยังไม่สนับสนุนว่าตลาดจะกลับมาเข้าสู่โหมดขาขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดจาก CryptoQuant ระบุว่า ตลาดสปอตมีการซื้อขายวันละประมาณ 30,000 BTC ขณะที่ตลาดอนุพันธ์อยู่ที่ราว ๆ 400,000 BTC ซึ่งนับว่าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับกลางปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดภาวะตลาดกระทิงใหญ่ล่าสุด
สำหรับพฤติกรรมการลงทุนของสถาบันก็มีแนวโน้มคล้ายกัน โดยตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พบเม็ดเงินไหลออกจากกองทุน ETF บิตคอยน์สปอตกว่า 870 ล้านดอลลาร์ และเริ่มมีทุนไหลกลับเข้ามาน้อยมากในวันที่ 15 เมษายน แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นถูกทอดทิ้ง แต่ระดับการซื้อขายของ ETF ก็ลดลงประมาณ 18% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย ซึ่งชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์ยังคงเป็นแบบ ‘รอดูท่าที’
ด้านการ ‘อุปทาน’ ความสามารถในการขับเคลื่อนราคายังถูกจำกัด Glassnode รายงานว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตามราคาซื้อขายล่าสุดของบิตคอยน์อยู่ที่ 0.80% ต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงตลาดขาขึ้น และยังลดลงจากเดือนก่อนหน้า (0.83%) อีกด้วย โดยยอดบิตคอยน์หลงเหลือในกระดานเทรดตอนนี้ อยู่ที่ประมาณ 2.6 ล้าน BTC ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2018
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยจากเศรษฐกิจภาพใหญ่ยังทิ้งความหวังไว้อยู่ นักวิเคราะห์อิสระ ไมเคิล แวน เดอ โพเป้ ระบุว่า หาก ‘อัตราเพิ่มขึ้นของเงิน M2 ทั่วโลก’ ยังคงมีความสัมพันธ์กับราคาเหมือนในอดีต เขาคาดว่า ‘บิตคอยน์อาจสร้างจุดสูงสุดใหม่ภายในไตรมาสนี้’ โดยคาดการณ์ว่าหลากหลายปัจจัย เช่น ค่าเงินหยวนที่อ่อนลง, ดอกเบี้ยลดลง, รวมถึงการขึ้นของทองคำและดัชนีดอลลาร์ อาจเอื้อให้เกิดภาวะตลาดกระทิง ขณะที่อัลท์คอยน์เองก็มีโอกาสฟื้นตัวไปพร้อมกัน
ถึงอย่างไร สิ่งสำคัญคือ ‘ระดับแนวต้านที่สำคัญ’ ซึ่งอยู่ที่ 86,300–86,500 ดอลลาร์ โดยข้อมูลจาก CoinGlass และแผนภาพราคาแบบออนเชนของ Alphractal เห็นพ้องว่าหากไม่สามารถฝ่าแนวต้านนี้ไปได้และราคากลับตัวลง แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 73,900 ดอลลาร์ และ 64,700 ดอลลาร์ตามลำดับ
โดยสรุป แม้จะมีสัญญาณฟื้นตัวในบางจุด ทั้งจากฝั่งดีมานด์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะยาว แต่ก็ยังเร็วเกินไปจะยืนยันว่า ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ได้เริ่มเปิดฉากขึ้น ทว่าการรักษาระดับเหนือ 80,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง อาจแสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มลดน้อยลง และหากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญควบคู่กับการเพิ่มขึ้นของปริมาณเทรดในตลาดจริง ก็มีโอกาสที่ ‘จิตวิทยาตลาด’ จะพลิกกลับในทันที
ความคิดเห็น 0