ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังระดับสูงของรัสเซียออกมาแสดงความเห็นว่า เหตุการณ์การอายัดกระเป๋าเงินของแพลตฟอร์มกะรันเทกซ์(Garantex) อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตรจากทางการสหรัฐและการมีส่วนร่วมของเทเทอร์(Tether) เป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัสเซียควรพัฒนาสตเบิลคอยน์ของตนเองอย่างเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 16 เมษายน สำนักข่าว Reuters และสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย รายงานว่า ออสมาน คาบาโลเยฟ(Osman Kabaloev) รองผู้อำนวยการกรมนโยบายการคลัง กระทรวงการคลังรัสเซีย ระบุว่า ในขณะที่กฎหมายเชิงทดลองของประเทศยังไม่จำกัดการใช้สเตเบิลคอยน์ แต่เหตุการณ์ล่าสุดได้ชี้ให้เห็นถึง ‘ความเสี่ยง’ ที่อาจเกิดขึ้นจากการพึ่งพาสตเบิลคอยน์ต่างประเทศอย่างเทเทอร์(USDT) พร้อมกล่าวว่า รัสเซียกำลังพิจารณาแนวทางสร้างเครื่องมือภายในประเทศที่มีลักษณะคล้าย USDT หรือผูกกับสกุลเงินอื่น
คาบาโลเยฟยังกล่าวถึงการร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกับทางการเยอรมนีและฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ในการอายัดโดเมนของกะรันเทกซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ถูกขึ้นบัญชีคว่ำบาตร โดยทางการสหรัฐระบุว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินมูลค่าสูงถึง 96,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 140.16 ล้านล้านวอน) ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
ในวันเดียวกัน เทเทอร์ออกแถลงการณ์ว่า ได้ทำการอายัดเหรียญ USDT คิดเป็นมูลค่าประมาณ 27 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 394.2 ล้านบาท) ซึ่งส่งผลให้กะรันเทกซ์ต้องระงับการดำเนินงานทุกอย่าง รวมถึงการถอนเงิน ทั้งนี้ สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ประกาศคว่ำบาตรแพลตฟอร์มกะรันเทกซ์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 แล้ว ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงิน
ปัจจุบัน รัสเซียให้การยอมรับสเตเบิลคอยน์ในกรอบการทดสอบทางกฎหมายอย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ล่าสุดตอกย้ำ ‘จุดอ่อนเชิงโครงสร้าง’ ของระบบคริปโตที่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากต่างประเทศเป็นหลัก รัฐบาลรัสเซียจึงมีแนวโน้มจะเร่งพัฒนา ‘โครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ’ เพื่อรองรับการใช้งานสเตเบิลคอยน์ในบริบทของ ‘ความมั่นคงทางการเงินระดับรัฐ’ และรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติในอนาคต
*คำสำคัญในบทความ: เทเทอร์(USDT), กะรันเทกซ์, สเตเบิลคอยน์, รัสเซีย, คว่ำบาตร, โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน*
ความคิดเห็น 0